นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นวงสนทนาพูดคุยกับผู้แทนเด็กและเยาวชนจากโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีทั้งผู้แทนจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคต่าง ๆ เข้าร่วมในโอกาสพิเศษนี้
ในการพูดคุย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวทักทายตัวแทนเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง พร้อมแนะนำตัวเองว่าเธอเคยเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วน และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รวมทั้งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการโรงแรม (MSc International Hotel Management) จาก University of Surrey ประเทศอังกฤษ
พร้อมกับเล่าถึงความตั้งใจในอดีตที่เคยวางแผนจะสานต่อกิจการโรงแรมของครอบครัว แต่เส้นทางชีวิตกลับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งสะท้อนถึงคำขวัญวันเด็กปีนี้ว่า "พร้อมปรับตัวตามสถานการณ์" นายกรัฐมนตรีจึงฝากให้เด็ก ๆ เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต
เมื่อผู้แทนนักเรียนถามว่า “การทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเหนื่อยหรือไม่”
นายกรัฐมนตรีตอบว่า ทุกอาชีพล้วนมีความเหนื่อยในรูปแบบที่แตกต่างกัน การทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เช่นกัน แม้จะมีความเหนื่อย แต่เธอได้รับกำลังใจที่ดีจากผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งทำให้รู้สึกอิ่มใจและมีกำลังใจทำงานต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการดำเนินโครงการที่สนับสนุนการศึกษา เช่น การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทุนการศึกษา โดยเชื่อว่าเมื่อประชาชนได้รับโอกาสที่ดี จะทำให้การทำงานหนักเป็นเรื่องที่คุ้มค่า
นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยว่า การทำงานของเธอไม่ได้มีความแตกต่างจากผู้นำชายในเชิงเนื้องาน
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้หญิง อาจเผชิญกับความท้าทายด้านทัศนคติและการถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือ "บูลลี่" ซึ่งเป็นปัญหาที่นักการเมืองหญิงทั่วโลกประสบ
พร้อมกับแนะนำให้ทุกคนรู้คุณค่าของตนเอง กำหนดเป้าหมายชัดเจน และมีสติเพื่อเผชิญกับความท้าทายในชีวิต โดยมองว่าสังคมที่เปิดกว้างขึ้นจะช่วยลดอุปสรรคเหล่านี้ในอนาคต
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแรงบันดาลใจในการทำงานว่าได้รับจากคุณพ่อซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยได้วางรากฐานนโยบายที่ยังคงสร้างประโยชน์ให้ประชาชน เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เธอมองว่านโยบายที่สร้างคุณค่าและยั่งยืนเหล่านี้เป็นสิ่งที่เธออยากสานต่อ
อีกแรงบันดาลใจสำคัญคือ การได้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง เช่น การเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม การปรับปรุงถนน และการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน นอกจากนี้ ครอบครัวและลูก ๆ ของเธอก็เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เธออยากสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสำคัญของวันเด็ก โดยเน้นให้เด็ก ๆ ใช้ช่วงเวลานี้ในการตั้งใจเรียน สนุกกับเพื่อน และเรียนรู้จากคนรอบข้าง และย้ำถึงความสำคัญของการปรับตัวในยุคที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมเปิดรับโอกาสจากการเรียนรู้ในทุกสถานการณ์
นอกจากนี้นายกฯ ยังมีคำแนะนำถึงการสื่อสารในครอบครัวและความท้าทายของเด็กยุคปัจจุบันที่ไม่ตรงกันระหว่างเด็กและผู้ปกครองว่า เป็นสิ่งที่พบได้ในทุกครอบครัว แต่การพูดคุยและรับฟังกันจะช่วยให้ปัญหาคลี่คลาย
ทั้งนี้ ความท้าทายที่เด็กและครอบครัวต้องเผชิญ เช่น ปัญหายาเสพติดและสังคม เพื่อน และการใช้ชีวิต หากครอบครัวมีความเข้มแข็งและเข้าใจกัน จะสามารถต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวปิดท้ายด้วยการย้ำว่า การที่เด็ก ๆ ตั้งใจเรียนและพัฒนาตนเอง คือการสร้างอนาคตให้ประเทศชาติ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถ ก็จะช่วยสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้ประเทศไทย