วันนี้ (11ธ.ค. 67 ) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับ 7 คำร้อง ที่มีการร้องขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไม่ชอบ ประกอบด้วยคำร้องของ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ,นายวัฒนา ชมเชย, ว่าที่ร.ต.วิชชุกร คำจันทร์, นายจิรัฎฐ์ แจ่มสว่าง, นายปรีชา เดชาเลิศ, นางฤติมา กันใจมา, พล.ต.หญิง บุณญารัศมิ์ พัฒนะมหินทร์ และ คณะ
โดยร้องว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) , นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปโดยลับ ใช้ดุลพินิจในการรับสมัครผู้สมัครโดยไม่ชอบ
ออกระเบียบกกต.ว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ เลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรมแก่ผู้ร้อง ปล่อยให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ใช้กลไกกระทรวงมหาดไทย ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภา ไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมายและมาตรฐานจริยธรรม โดยขอให้ศาลสั่งให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีทั้ง 7 คำร้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ของ กกต. และขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เป็นกรณีตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 47 (2) ที่บัญญัติว่า
“การใช้สิทธิยื่นคำร้องตาม มาตรา 46 ต้องมิใช่เป็นกรณีอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้.... (2) รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้ว” ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้นผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213
สำหรับกรณีผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 48 โดยยื่นคำร้อง ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231(1) ซึ่งไม่ใช่การยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 46 ประกอบมาตรา 48