“ก้าวไกล”มองข้ามช็อตยุบพรรค วางตัวผู้นำรุ่น 4 รองรับ

04 ส.ค. 2567 | 07:00 น.

“ก้าวไกล”มองข้ามช็อตยุบพรรค : “ศิริกัญญา ตันสกุล” ชี้ “ไม่ว่าคนจะเปลี่ยนไปกี่รุ่น หัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนกี่คน แต่ความเป็นอนาคตใหม่ และก้าวไกลยังคงอยู่” รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4015 โดย...ทีมข่าวการเมือง

KEY

POINTS

  • 7 ส.ค.นี้ “ก้าวไกล” จะกลายเป็นพรรคที่สองของ “ค่ายสีส้ม” ตามรอย“อนาคตใหม่”หรือไม่ ที่ต้องถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ตัดสิทธิ กก.บห. 10 ปี 

 

  • แต่ไม่ว่าพรรคจะถูกยุบ หรือ ไม่ถูกยุบ ก้าวไกล ก็มองข้ามไปแล้วเพราะได้ออกมาประกาศว่า อุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ยังจะเดินหน้าต่อไป

 

  • ถึงขนาดว่ามีการวางคนที่เหมาะเป็น ผู้นำพรรค รุ่นที่ 4 ต่อจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ -ชัยธวัช ตุลาธน ไว้แล้ว หากพรรคถูกยุบ
     

วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567 เป็นวันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดชี้ชะตา “พรรคก้าวไกล” ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่ง “ยุบพรรค” และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และห้ามมิให้ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือ มีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายในกำหนด 10 ปี 

เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567  

 

"ก้าวไกล"มองข้ามยุบพรรค

อันถือเป็นครั้งที่ 2 ของ “ค่ายสีส้ม” ต้องเผชิญกับวิบากกรรมการยุบพรรค หลังจาก “พรรคอนาคตใหม่” ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไป เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ 10 ปี ก่อนจะก่อกำเนิดเป็น “พรรคก้าวไกล” ขึ้นมาแทน

แต่ก่อนจะถึงวันชี้ชะตา 7 สิงหาฯ ได้มีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักจากบรรดาแกนนำพรรคสีส้ม โดยเฉพาะ 2 แคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่อาจถูกเสนอชื่อหากก้าวไกลถูกยุบพรรค ได้แก่ ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย 

และ เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองเลขาธิการพรรค ฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูลและดิจิทัลประจำพรรค ที่ออกคลิปแสดงจุดยืนของก้าวไกล ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน

เกมที่ “ก้าวไกล” เคลื่อนไหวอยู่นี้ ทำให้ดูเสมือนว่า “มองข้ามช็อต” ไปแล้ว ไม่ว่าพรรคจะ “ถูกยุบ” หรือ “ไม่ถูกยุบ” ก็ยังจะเดินหน้าต่อ ด้วยอุดมการณ์เดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลง  

ขณะเดียวกัน มองกันไปถึงว่า หาก “ก้าวไกล” ถูกยุบพรรค เมื่อตั้งพรรคใหม่จะใช้ชื่อพรรคว่าอะไร และใครจะเป็น “ผู้นำพรรค รุ่นที่ 4” ต่อจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ -ชัยธวัช ตุลาธน

หยุดอุดมการณ์ไม่ได้

วันที่ 28 ก.ค. 2567 พรรคก้าวไกล ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านเพจของพรรค ความยาวประมาณ 8 นาที ในหัวข้อ “จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต” โดยเป็นการสัมภาษณ์ ส.ส.ของพรรค คือ ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรค และ พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  และโฆษกพรรค

เพจของพรรคก้าวไกล ระบุคำบรรยายคลิปตอนหนึ่งว่า คดียุบพรรคที่พรรคก้าวไกล กำลังเผชิญอยู่ ย่อมไม่ต่างกับสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ เผชิญเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรคการเมืองต่างๆ เจอมาในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา 

การยุบพรรคอาจจะยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดชุดอุดมการณ์เช่นนี้ได้ และเราจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าวันที่ 7 สิงหาคมนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ศิริกัญญา ตันสกุล กล่าวว่า หากพรรคถูกยุบไม่ได้ทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจ หรือ รู้สึกหมดหวังได้ เพราะพรรคก้าวไกลกลายเป็นสถาบันการเมือง ไม่ว่าคนจะเปลี่ยนไปกี่รุ่น หัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนกี่คน แต่ความเป็นอนาคตใหม่ และก้าวไกลยังคงอยู่ ไม่ว่าพรรคต่อไป ไม่ว่ายานพาหนะต่อไปจะชื่อว่าอะไรก็ตาม

ไม่มีวันทำลายล้างพรรคส้มได้ 

ขณะที่ ณัฐพงษ์  เรืองปัญญาวุฒิ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบ ไม่ได้เพราะไปแตะต้องสถาบัน แต่เพราะไปชนกับกลุ่มการเมืองเก่า ซึ่งหลังการเลือกตั้ง 2566 เห็นได้ชัดว่า มีการรวมขั้วกันเป็นกลุ่มก้อนกัน เพื่อต่อต้านพรรคฯ และลากพรรคก้าวไกล ไปสู่เรื่องของสถาบัน 

พรรคก้าวไกล ไม่ได้ต้องการล้มล้าง หรือเซาะกร่อนบ่อนทำลายใคร เพียงแต่ต้องการโครงสร้างทางการเมือง ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน

"การยุบพรรค หรือ จับคนไปขัง ไม่สามารถขังความคิดได้ โหวตเตอร์พรรค รวมถึงทีมงาน ส.ส.ที่ทำงาน ทุกคนไปต่อแน่นอน ไม่มีวันทำลายล้างได้ หากวัดตัวเลข ตอนเลือกตั้งสมัยอนาคตใหม่ ได้ 88 คน มาเป็นพรรคก้าวไกล ได้ 151 คน ไม่ได้ทำให้คะแนนเสียงหายไปไหน" 

ส่วน พริษฐ์ วัชรสินธุ กล่าวว่า การยุบพรรคอาจจะยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดชุดอุดมการณ์ของพรรคได้ และการยุบพรรคก้าวไกล จะยิ่งทำให้ประชาชนเห็นถึงความผิดปกติ และจะมาร่วมผลักดันวาระของพรรคก้าวไกลมากขึ้น 

“พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล พร้อมจะเปิดพื้นที่ให้คนที่ไม่ได้ร่วมเดินทางมาตั้งแต่ต้น แต่วันนี้เห็นภารกิจร่วมกันในสิ่งที่จำเป็นต่อการสร้างอนาคตร่วมกัน” พริษฐ์ ระบุ

คำวินิจฉัยประชาชน

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล ปล่อยคลิปวิดีโออีกครั้งหัวข้อ “คำวินิจฉัยประชาชน”

โดยเนื้อหาภายในคลิปวิดีโอ เป็นการไต่สวนพรรคการเมืองโดยประชาชนจากหลากหลายอาชีพ เพื่อพิจารณาว่าสมควรจะสนับสนุนต่อไปหรือไม่ ซึ่งมี ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองเลขาธิการพรรค เป็นผู้ตอบ

ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถผลักดันนโยบายที่มีความก้าวหน้าได้ แต่ด้วยกลไกทางการเมือง ที่ทำให้เรายังไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ในฐานะฝ่ายค้าน ได้ใช้กลไกในสภา เพื่อผลักดันนโยบายของพรรค ผ่านการยื่นกฎหมายทั้ง 54 ฉบับ

“เราผิดหวังกับรัฐบาลข้ามขั้ว แต่ไม่เคยหมดหวัง เพราะพวกเราไม่ได้คิดอยู่คนเดียว พรรคก้าวไกลสามารถชนะเลือกตั้ง มาเป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่งได้ เพียงแค่การเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาเท่านั้น

รวมทั้งได้รับการบริจาคจากประชาชน สูงเป็นอันดับหนึ่งในทุกปีที่ผ่านมา และได้รับคะแนนเสียงบัญชีรายชื่อสูงเป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสอง ในหลายจังหวัดทั่วทั้งประเทศ ทำให้เรามั่นใจ และเชื่อว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”

                         +++++

“ศิริกัญญา ตันสกุล”ผู้นำพรรคสีส้มคนใหม่? 

ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลปล่อยคลิปวิดีโอโหมโรงก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรค ว่า วันที่ 7 ส.ค. เป็นการตัดสินครั้งที่สำคัญ คิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งคงกังวลไม่แพ้กับเรา  อาจจำเป็นที่จะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สร้างความมั่นใจว่า อย่างไรพรรคก็คงเดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคลิปที่พรรคก้าวไกลถ่ายทำนั้นเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว

เมื่อถามว่าหากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ส่วนตัวพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แล้วแต่ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากวันที่ 7 ส.ค. ซึ่งผลออกได้หลายทาง 

“คิดว่าการต่อสู้ของพรรคมีน้ำหนักและข้อเท็จจริง ก็มีความพร้อม ในด้านเทคนิค ด้านกฎหมาย เราก็มีข้อต่อสู้ที่แข็งแรง เราคงคาดหวังว่าวันที่ 7 ส.ค.นี้ เราจะรอดพ้นจากการต้องถูกยุบพรรคอีกครั้งหนึ่งแน่นอน แต่แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพรรคเตรียมพร้อมไว้ เพราะไม่ใช่ครั้งแรก ดังนั้นจะยิ่งพร้อมกว่าเดิม”

เมื่อถามว่าหากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ต้องสู้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และจะกลายเป็นการต่อสู้กันด้วยพลังหญิง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าท้ายที่สุด พรรคตัดสินใจเสนอชื่อตน และมีสมาชิกพร้อมจะเลือกสำหรับผู้นำพรรคการเมืองที่เป็นผู้หญิงมีมากขึ้น คิดว่าน่าจะเป็นมิติใหม่ที่ดี 

“นอกจากเป็นตัวแทนของประชาชนทุกฝั่ง ทุกเพศ ทุกวัย เราก็จะยิ่งมีมุมมองใหม่ๆ ต่อการเมืองที่อาจแตกต่างจากที่ผ่านมา ที่ผู้นำทางการเมืองเป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เราก็คิดว่าจะสร้างมิติใหม่ให้กับการเมืองไทยได้”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าไม่ติดใช่หรือไม่ ถ้ามีคนเสนอชื่อ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า “ค่ะ แล้วแต่ทางพรรค”

เมื่อถามถึงข้อสรุปเรื่องพรรคใหม่ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีการเตรียมไว้บางส่วน แต่ไม่อยากให้กลายเป็นลางที่ไม่ดี แต่เราก็มีการเตรียมไว้แล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจริง ก็พร้อมที่จะไปอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นเตรียมชื่อพรรคใหม่ไว้