ศาลอาญาคดีทุจริต นัดพิจารณาคดี"วงษ์สยามฯ" ฟ้อง "บอร์ด กปน." 24 มิ.ย.นี้

24 พ.ค. 2567 | 16:00 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ค. 2567 | 13:34 น.

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ชี้ คดีมีมูล นัดพิจารณาคดี 24 มิ.ย. 67 หลังมีคำสั่งประทับรับฟ้อง บริษัท วงษ์สยามก่อสร้างฯ ฟ้อง "นิสิต จันทร์สมวงศ์" ประธานกรรมการ กปน. พร้อมพวกรวม 30 คน ปมประมูลงานโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์

จากกรณีที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ฟ้องนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ สมัยดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการการประปานครหลวง และพวกรวม 30 รายในคดีประมูลโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์

ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อท. 132/2566 เมื่อวันที่ 15 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2567 ความอาญา ระหว่าง บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ที่ 1 กับพวกรวม 30 คน ในคดีคณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคาร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมในการเข้าทำสัญญากับการประปานครหลวง (กปน.)

โดยศาลมีคำสั่งประทับฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 จำเลยที่ 12 ถึงที่ 30 ไว้พิจารณาเฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90, 91, 83, 86, 151, 157, 368 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ข้อหาอื่นให้ยก พร้อมนัดสอบคำให้การและกำหนดวันนัดพิจารณาในวันที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 9.30 น.

ในรายงานกระบวนการพิจารณา มีคำสั่งพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ประกอบข้อแถลงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอันสำคัญที่ศาลควรสั่งคดีแล้วได้ความว่า

ศาลอาญาคดีทุจริต นัดพิจารณาคดี\"วงษ์สยามฯ\" ฟ้อง \"บอร์ด กปน.\" 24 มิ.ย.นี้

โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มี นายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน การประปานครหลวง เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ. 2510 มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจบริหารงานตามระบบราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย

มี "ผู้ว่าการประปานครหลวง" ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก คณะกรรมการการประปานครหลวง เป็นผู้บริหารกิจการของการประปานครหลวงให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับและนโยบายที่คณะกรรมการกำหนดและมีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานทุกตำแหน่งและลูกจ้าง และตามมาตรา 15 กำหนดให้ ประธานกรรมการ กรรมการและพนักงานของการประปานครหลวง เป็นเจ้าพนักงาน ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา 

ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นประธานกรรมการการประปานครหลวง ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.2563 จนถึงปัจจุบัน มีหน้าที่ร่วมกับ คณะกรรมการการประปานครหลวง (คณะกรรมการฯ) ในการวางนโยบายและควบคุมดูแลทั่วไปซึ่งกิจการของการประปานครหลวง

รวมถึงวางข้อบังคับเกี่ยวกับการดำเนินกิจการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ.2510 วางข้อบังคับการประชุมและการดำเนินกิจการของคณะกรรมการ วางข้อบังคับว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอนพนักงาน ระเบียบวินัย การลงโทษพนักงานและการร้องทุกข์และวางข้อบังคับว่าด้วยระเบียบปฏิบัติงานของการประปานครหลวง เป็นต้น

และมีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของการประปานครหลวง 

ศาลวินิจฉัยเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา 83, 86, 151, 157, 368 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 อ้างว่า โจทก์มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนและเป็นผู้ยื่นเสนอราคาต่ำที่สุด จำเลยจะต้องประกาศให้โจทก์เป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการนี้ได้ความตามทางไต่สวนจากนายสมศักดิ์ ภู่สกุล รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นพยานโจทก์ ตามบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงฉบับวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ว่า 

ตามหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์เอกสารหมาย จ.24 การประปานครหลวงจะต้องดำเนินการกลับไปดำเนินการในขั้นตอนการพิจารณาผล การเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องต่อไป หมายความว่า ให้การประปานครหลวงต้องกลับไปพิจารณาผลการเสนอราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ตามประเด็นอุทธรณ์

โดยพิจารณาว่า ผู้อุทธรณ์ทั้ง 2 ราย ได้ยื่นหนังสือรับรองผลงานเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2.11 ทั้งสองรายแล้วพิจารณาให้ผู้อุทธรณ์ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นผู้ชนะการเสนอราคาต่อไป ซึ่งคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ถือเป็นที่สุด ตามนัยมาตรา 119 วรรคสาม แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะกลับไปตรวจสอบคุณสมบัติอื่น ๆ ของผู้ยื่นข้อเสนอที่อุทธรณ์ฟังขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยอ้างว่า ยังไมได้ตรวจสอบไม่ได้ 

และนายสมศักดิ์ ภู่สกุล รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เบิกความตอบศาลถามว่า กรรมการพิจารณาผลมีหน้าที่ทำรายงานเสนอต่อหัวหน้าหน่วยงานให้ความเห็นชอบเพื่ออนุมัติให้สั่งซื้อสั่งจ้างสำหรับผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นลำดับที่ 1 ไม่อาจจะเรียกผู้เสนอราคาอันดับที่ 2 ที่ 3 เข้าทำสัญญา หากเรียกผู้เสนอราคารายราคาต่ำสุดอันดับที่ 1 ให้มาทำสัญญาแล้วไม่มา จึงเรียกผู้เสนอราคาต่ำสุดอันดับ 2 และอันดับ 2 เข้าทำสัญญาเป็นลำดับ 

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์

การที่คณะกรรมการใช้ดุลพินิจเรียกผู้เสนอราคาแตกต่างไปถือว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ถึงที่ 8 ที่ 16 ที่ 18 ถึง 20 ที่ 24 และที่ 25 ขออนุญาตศาลถามว่า ระบบ e-bidding ใช้เกณฑ์ราคาต่ำจะเปิดราคาพร้อมเอกสารของผู้เสนอราคา ดังนั้น ข้อเท็จจริงในคดีนี้ราคาย่อมเปิดเผยพร้อมความถูกต้องของเอกสาร 

พฤติการณ์แห่งคดีบ่งชี้ให้เห็นได้ว่า จำเลยที่ 1 กับพวกทุกคนทราบดีทุกขั้นตอนในการดำเนินการประกวดราคาในคดีนี้ว่า ตามขั้นตอนการพิจารณาผลการประกวดราคาจำเลยที่ 19 ถึงที่ 23 ได้ดำเนินการครบถ้วนแล้วและผลการพิจารณา คือ โจทก์เป็นผู้มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนเสนอราคาต่ำสุดซึ่งการประปานครหลวงควรประกาศให้โจทก์เป็นผู้ชนะการประกวดราคา

แต่จากพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมีเหตุให้เชื่อได้ว่า จำเลยที่ 1 กับพวกทุกคนมีเจตนาร่วมกันที่จะทำให้โจทก์ขาดคุณสมบัติ ไม่ได้รับการคัดเลือกเพื่อช่วยให้บริษัท ITA Consortium เป็นผู้ชนะการประกวดราคาซึ่งการร่วมกันกระทำการดังกล่าวบรรยายมาในฟ้อง

จำเลยที่ 1 กับพวกทุกคนได้ร่วมกันกระทำการต่าง ๆ ในลักษณะประวิงเวลาการปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่ได้มีคำสั่งให้ จำเลยที่ 1 กับพวกทุกคนร่วมกันดำเนินการตามขั้นตอนการประกวดราคาและพิจารณาในส่วนขั้นตอนการพิจารณาราคา

ศาลอาญาคดีทุจริต นัดพิจารณาคดี\"วงษ์สยามฯ\" ฟ้อง \"บอร์ด กปน.\" 24 มิ.ย.นี้  

เมื่อพิจารณาประกอบเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้าง ได้กำหนดไว้ในข้อ 6 หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณาประกอบกับข้อ 3.2 ส่วนที่ 2 (1) - (3) เอกสารทั้งหมดที่ได้ยื่นข้อเสนอจะต้องผ่านการตรวจสอบพร้อมกัน จึงเป็นการยืนยันว่า การประปานครหลวงได้ตรวจสอบเอกสารและข้อเสนอทางเทคนิคจนครบถ้วนแล้ว

การขอให้บริษัทชี้แจงเพิ่มเติมอีกย่อมไม่เป็นไปตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ที่สั่งให้การประปานครหลวงกลับไปดำเนินการในขั้นตอนการพิจารณาผลการเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องเท่านั้น พฤติการณ์แห่งคดีจึงมีมูล ที่ศาลจะรับคดีไว้เพื่อดำเนินการต่อไปได้ คดีโจทก์มีมูล

ส่วนคำขอตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502  มาตรา 3 "พนักงาน" หมายความว่า ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการหรือ บุคคลผู้ปฏิบัติงานในองค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งทุนทั้งหมดหรือทุนเกินกว่าร้อยละ 50 เป็นของรัฐ โดยได้รับเงินเดือนหรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นจากองค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ ทั้งนี้ นอกจากผู้เป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย เมื่อ พ.ร.บ.การประปานครหลวง กำหนดความเป็นเจ้าพนักงานไว้ การกระทำของจำเลย จึงไม่อาจปรับบทเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีก

ส่วน พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 และพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 120, 121 รัฐเท่านั้นที่จะเป็นผู้เสียหายในการฟ้องคดีต่อผู้กระทำผิด ผู้เข้าร่วมเสนอราคาได้อยู่ในฐานะผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีเองได้จึงไม่อาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามข้อนี้ได้ตามฎีกา 8771/2557