เศรษฐา เปิดใจผลงานรัฐบาล 7 เดือน ยังไม่เข้าเป้า เจอวิ่งเต้น วางแผนโรดโชว์

15 เม.ย. 2567 | 12:03 น.
อัปเดตล่าสุด :15 เม.ย. 2567 | 12:17 น.

นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ใจถึงผลงานรัฐบาลในช่วงเวลา 7 เดือน ยังมีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดั่งใจ โดยเฉพาะเงินดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่เข้าเป้าตามแผน แถมยังเจอปัญหาการวิ่งเต้น สั่งแก้ปัญหาด่วน พร้อมวางแผนโรดโชว์แอฟริกา

วันนี้ (15 เมษายน 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดใจถึงผลการทำงานของรัฐบาลในช่วงเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา ว่า ยังมีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดั่งใจ ทั้งราคาพืชผลทางการเกษตร การท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกการตรวจคนเข้าเมือง การแก้ปัญหากรมศุลกากร และนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านวอลเล็ต ที่ล่าช้าออกไปจากแผนเดิม

เงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่เข้าเป้า

นายกฯ ระบุว่า การเลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทออกไปนั้น ไม่อยากโทษงบประมาณที่ล่าช้า เพราะกว่าที่รัฐบาลจะจัดตั้งได้ ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน ซึ่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และไม่ได้ใช้ข้ออ้างที่กว่าที่พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 จะมีผลใช้บังคับในเดือนพฤษภาคม นี้ เพราะรัฐบาลทราบดี จึงได้ใช้นโยบายอื่นที่สามารถทำได้มากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น วีซ่าฟรี พักหนี้เกษตรกร และการลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน

สำหรับโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยอมรับว่า รัฐบาลต้องการเม็ดเงินใหม่ และต้องรับฟังความเห็นหลายภาคส่วน ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนักวิชาการ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน โดยยืนยันว่า ในไตรมาสที่ 4/2567 นี้ ประชาชนจะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน ซึ่งทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมั่นใจจะไม่มีอะไรมาเตะถ่วงทำให้โครงการต้องเลื่อนออกไปอีก

ขณะที่ข้อกังวลถึงการใช้งบประมาณมาทำถึง 5 แสนล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณมากเกินไป และอาจทำให้ประชาชนเกิดความเคยชินรอเงินจากรัฐบาลอยู่เรื่อย ๆ นั้น มองว่า นโยบายเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการเติมเงินเข้ากระเป๋าประชาชน เพื่อช่วยแก้ไขวิกฤตที่ผ่านมาจากโควิด-19 และรัฐบาล ได้จำกัดพื้นที่การใช้งานในพื้นที่ เพื่อให้จังหวัดเล็ก ๆ ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก และมีโอกาสจับจ่ายใช้สอย 

ทั้งนี้มั่นใจว่า ครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะเกิดประโยชน์ และรัฐบาลทำมาถูกทางแล้ว โดยเชื่อว่า ในช่วงไตรมาส 1-2 ของปีหน้า จะเริ่มเห็นผล ส่วนช่วงเวลาระหว่างที่เงินดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่มีผลใช้บังคับ นั้น รัฐบาลจะพิจารณาใช้นโยบายอื่น ๆ ตามที่รัฐบาล ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ทั้งการสร้างถนน การแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับเกษตรกร ออกมาอย่างต่อเนื่อง

ดันราคาสินค้าเกษตร-แก้ท่องเที่ยว

ส่วนผลงานรัฐบาลอื่น ๆ ในช่วงที่ผ่านมา 7 เดือนนั้น เรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร ยังสามารถทำให้ดีขึ้นอีกได้ ทั้งพืชหลัก เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง อ้อย และยางพารา รวมถึงความพยายามในการผลักดันราคาพืชรองอื่น ๆ ไม่ให้ตกต่ำผ่านการเปิดตลาดเพิ่ม หรือการดูดซับผลผลิตออกจากตลาด เพื่อให้ราคาสูงขึ้น โดยราคายางที่มาถึงกิโลกรัมละ 100 บาทได้ เป็นเพราะรัฐบาลให้ความใส่ใจ และหลายหน่วยงานช่วยกันป้องกัน ไม่ให้ยางเถื่อนเข้าประเทศ

ขณะที่การผลักดันนโยบายด้านการท่องเที่ยว แม้ในปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวสูงกว่าปีที่แล้วถึงเท่าตัว แต่ก็ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก จากการที่ตนเองเดินทางไปเยือนต่างประเทศ เพื่อเปิดตลาดการท่องเที่ยว นโยบายวีซ่าฟรี การอำนวยความสะดวกการตรวจคนเข้าเมืองให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และดูแลนักท่องเที่ยวให้ดีขึ้น จัดการไกด์เถื่อน และเรื่องอื่น ๆ จึงมั่นใจว่า รัฐบาล สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นได้อีก

เจอวิ่งเต้นกรมศุลกากร

นายกฯ ยังระบุถึงการแก้ปัญหากรมศุลกากรว่า กรมศุลกากร เป็น 1 ในกรม 3 ภาษีหลักของประเทศ แต่สามารถเก็บภาษีได้เพียง 3% ของรายได้ประเทศ หรือประมาณ 100,000 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำ และยังเป็นกรมหลักที่สามารถควบคุมสินค้าเถื่อนเข้ามาในประเทศไม่ให้มากระทบความเป็นอยู่ของเกษตรกร 

“ที่ผ่านมามีผู้มาวิ่งเต้นกันจำนวนมาก จึงเป็นจำเป็นจะต้องพัฒนากรมศุลกากร ให้เป็นกรมที่มีความสะอาด บริสุทธิ์ สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในหลาย ๆ มิติ ทั้งการป้องกันของเถื่อน ไม่ให้มารบกวนการพัฒนา SMEs ไทย หรือบางคนสั่งของพรีออเดอร์สินค้ามาจากต่างประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงภาษี ถือเป็นจุดรั่วไหล ที่ทำให้การค้าขายของประเทศ ยังไม่ดีเท่าที่ควร ตนจึงยังไม่พึงพอใจ และจะต้องพัฒนาต่อไปให้ดีขึ้น” นายกฯ ระบุ

นอกจากนี้ยังมีปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าที่ระบาดมากทั้งผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จนแพร่ระบาดในเด็ก-เยาวชน และทำลายสุขภาพอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุนี้จึงต้องพิจารณาว่ารัฐบาลจะดำเนินการใดได้บ้าง รวมถึงการแก้ไขปัญหาเสพติด ที่แม้ไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา จะสามารถจับได้มากกว่าปีที่ผ่านมาทั้งปี แต่ก็ยังสามารถปราบปรามได้อีก

เร่งดึงนักลงทุนต่างชาติ-เล็งโรดโชว์

ด้านการลงทุนจากต่างประเทศ นายกฯ ยอมรับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดนักลงทุน จากนี้ จะต้องพิจารณาต่อว่า เมื่อรัฐบาลให้นักลงทุนเข้ามาลงในประเทศไทยแล้ว จะต้องมีมาตรการอื่น ๆ ที่นอกเหลือจากมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมเพื่อสร้างแรงจูงใจ ทั้งค่าครองชีพที่เหมาะสม มีโรงเรียนนานาชาติที่รองรับลูกหลานนักลงทุน มีระบบสาธารณสุขเป็นมาตรฐานระดับโลก โดยได้สั่งการให้บีโอไอ และประธานผู้แทนการค้าไทยไปพิจารณาแล้ว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในช่วงต่อจากนี้ ยังมีแผนที่จะเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกา เพื่อเปิดตลาดการค้าด้านการเกษตรใหม่ ๆ เพราะประเทศไทย ต้องพึ่งการเกษตรมาก และต่างชาติให้ความมั่นใจต่อผลิตภัณฑ์ข้าวของไทย รวมถึงยังประเมินว่า อีกประมาณ 10 ปี ประเทศไนจีเรีย จะติด 1 ใน 5 ประเทศที่มีจีดีพีสูง และมีความต้องการทางอาหารสูงมาก จึงเป็นโอกาสในการเปิดตลาดใหม่ด้วย