หัวหน้าก้าวไกล จัดเต็ม อภิปรายซัดรัฐบาล “ทำประชาธิปไตยไหลย้อนกลับ”

03 เม.ย. 2567 | 10:56 น.
อัปเดตล่าสุด :03 เม.ย. 2567 | 11:03 น.

ผู้นำฝ่ายค้าน “ชัยธวัช ตุลาธน” แถลงเปิดญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ มาตรา 152 อัดนโยบายรัฐบาลขาดยุทธศาสตร์ เซาะกร่อนกระบวนการยุติธรรม-ทำประชาธิปไตยไทยไหลย้อนกลับ 

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลุกขึ้นเป็นคนแรกอภิปรายนำเปิด "การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ" ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ของสภาผู้แทนราษฎรว่า หลังการเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังจะได้ผู้นำประเทศคนใหม่ ที่แตกต่างจากผู้นำที่มาจากการรัฐประหาร แต่กลับได้นายกรัฐมนตรี ที่ไร้วุฒิสภาวะ และสับสนว่ามีอำนาจใดบ้าง ขาดอำนาจผู้นำในการสร้างความเชื่อมั่นต่อทิศทางรัฐบาล และยังมีวิธีคิดการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแบบเดิม ๆ ที่จัดสรรตามโควตา แทนที่จะสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ

และหลังการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ประชาชนกลับสิ้นหวัง บริหารประเทศกว่าครึ่งปี ประชาชนก็คาดหวังจะเห็นนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ปากท้องดีขึ้น แต่ประชาชน กลับพบเพียงการบริหารนโยบายที่สับสน คิดไปทำไป ขาดยุทธศาสตร์ และแนวทางที่ชัดเจน ตรงเป้าหมาย ซ้ำยังส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อทุนใหญ่ หลายนโยบายอ้างประชาชนบังหน้า เนื้อในมีการฉ้อฉลเชิงนโยบาย เปิดทางให้รัฐมนตรีและพวกพ้อง แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ 

หัวหน้าก้าวไกล จัดเต็ม อภิปรายซัดรัฐบาล “ทำประชาธิปไตยไหลย้อนกลับ”

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังเห็นว่า หลังการเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งรัฐบาล ได้ประกาศจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็ว แต่เมื่อผ่านไป 7 เดือน การดำเนินการ ยังคงวกไปวนมา ประชาชนไม่มั่นใจแล้วว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยังพบว่า หากมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทันจริง ประเทศก็อาจจะได้รัฐธรรมนูญ ที่แม้จะใหม่ แต่ไม่วางใจประชาชนเช่นเดิม 

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังมั่นใจว่า ประชาชนคาดหวังเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การฟื้นฟูหลักนิติธรรม นิติรัฐ ตามที่รัฐบาลแถลงนโยบายไว้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น กลับพบวิกฤตศรัทธาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และยังคงเต็มไปด้วยระบบตั๋ว และส่วย จนประชาชนไม่สามารถไว้วางใจกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ความเสมอภาคเท่าเทียมในการบังคับใช้กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซ้ำเติมวิกฤตศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ที่มีอย่างต่อเนื่องหลังรัฐประหาร

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้ที่ระบุ “ถ้าไม่ชอบกัน ก็ต่างคนต่างอยู่” แต่ประชาชน ต้องการอยู่ในประเทศ หนึ่งระบบ ที่ประชาชนได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเสมอกัน ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน 

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังระบุว่า ประชาชนหวังเห็นระบบการเมืองที่นำพาประเทศไปข้างหน้า สู่อนาคตที่ดีกว่า แต่ประชาชนกลับได้ประชาธิปไตยแบบไหลย้อนกลับ ที่ผู้นำทางการเมือง ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ลุแก่อำนาจ ได้คืบเอาศอก พยายามผูกขาดอำนาจทางการเมือง และเศรษฐกิจให้อยู่ในมือของคนไม่กี่กลุ่ม พยายามทำลายสิ่งใหม่ ๆ เพื่อรักษาสิ่งเก่า ทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาพการเมือง ที่ไม่ตอบสนองกับความคิดใหม่ ๆ ของประชาชน 

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังยืนยันว่า การอภิปรายของฝ่ายค้าน เป็นการทำหน้าที่ของ สส.โดยหวังว่า การซักถามขอเท็จจริง หรือการเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และการบริหารราชแผ่นดินของรัฐบาล