เปิดญัตติฝ่ายค้าน ซักฟอก รัฐบาลเศรษฐา นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง

29 มี.ค. 2567 | 08:05 น.

เปิดญัตติพรรคฝ่ายค้าน อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ รัฐบาลเศรษฐา 3-4 เมษายนนี้ บริหารราชการแผ่นดิน 5 ไร้ ไร้ประสิทธิภาพ-ไร้ความสามารถ-ไร้เป้าหมาย-ไร้จริยธรรม-ไร้วุฒิภาวะ นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง

วันนี้ (29 มีนาคม 2567) รายงานข่าวจากรัฐสภาว่า  ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/ผ 40 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 เรื่อง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นนัดพิเศษ ในวันพุธที่ 3 เมษายน 2567 และวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2567 เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 

สำหรับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ของ สส.พรรคฝ่ายค้านจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาที่ได้ร่วมเข้าชื่อเสนอญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรมี ดังนี้ 

ด้วยคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมานตรีได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่มิได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน

ไม่จริงใจ-ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบาย 

“ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพหรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง”

การดำเนินการของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้สินในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ล้วนขาดยุทธศาสตร์และการปฏิบัติที่ตรงเป้าหมาย 

ทุจริตเชิงนโยบาย-ยุติธรรมเลือกปฏิบัติ

“นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหรือเกิดการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย แทนที่จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติธรรม กลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาคเท่าเทียมทางกฎหมายและการเมือง” 

ไม่จริงใจต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาการศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการแก้ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และความเดือดร้อนของประชาชนมีความผิดพลาด ไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน การดำเนินนโยบายต่างประเทศยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีโลกได้ 

บริหารราชการแผ่นดิน 5 ไร้ 

“หากปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้เป้าหมาย ไร้จริยธรรม และไร้วุฒิภาวะ ต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมตามที่พี่น้องประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา” 

จากสถานการณ์ที่กล่าวถึงข้างต้น จึงมีความจำเป็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยจะได้นำเสนอสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะ และซักถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการดำเนินนโยบายและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาน