ธรรมนัส ประสาน ป.ป.ง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน นายทุน รุก ที่ดิน สปก.

วันนี้ (7 มีนาคม 2567) ที่รัฐสภา นายอภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงกรณีข้อพิพาทในพื้นที่ทับซ้อนที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

นายอภิชาติถามว่า สถานะทางกฎหมายของรายงานผลการตรวจสอบของกรมแผนที่ทหารมีสถานะทางกฎหมายอย่างไร สามารถนำมาใช้ในการตัดสินความขัดแย้งข้อพิพาทเรื่องแนวเขตได้หรือไม่ สามารถใช้แทนแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ประกาศอุทยานแห่งชาติได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงความเห็นของกรมแผนที่ทหารเท่านั้น 

ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า หลังจากกรมแผนที่ทหารตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วภายใน 2 เดือน จะต้องรายงานไปที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนที่วันแมป  ระหว่างนี้ต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าวเพื่อรอวันแมป 

“ในส่วนของ ส.ป.ก. ผมสั่งให้เพิกถอน สปก.4-01 ที่ออกไป 5 ฉบับ ขณะเดียวกันผมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและสั่งย้ายเข้าส่วนกลางทั้งหมด 6 คนที่เกี่ยวข้อง ผมได้ข้อมูลแล้วว่า มันอาจจะมีการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 โดยไม่ชอบ จึงได้สั่งการให้ที่ปรึกษากฎหมายไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ป.ป.ป. และให้ดำเนินคดี สาวถึงใคร ไม่มีจบแบบหล่อ ใครผิดว่าตามผิด"ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พรุ่งนี้ (8 มีนาคม 2567) ตนได้มอบหมายให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก.ทำหนังสือถึง เลขาธิการ ป.ป.ง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยึดทรัพย์สินคืนแผ่นดินให้หมด   

นายอภิชาติถามคำถามที่สองว่า ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กำกับ สำนักงาน ส.ป.ก.ทราบหรือได้รับรายงานจาก สำนักงาน ส.ป.ก.นครราชสีมาหรือไม่ว่า มีการแจ้งเตือนจากกรมอุทยานแห่งชาติฯเขาใหญ่คัดค้านการปักหมุดถึง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 20 และ 31 ตุลาคม 2566 นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ยังได้ทำหนังสือไปถึง สำนักงาน ส.ป.ก.ถึงปัญหาดังกล่าว 2 ครั้งเช่นเดียวกัน คือ วันที่ 7 พฤศจิกายน 266 และ 26 ธันวาคม 2566

“ในช่วงเวลา 3 เดือนที่เรื่องดังกล่าวเป็นข่าวดังขึ้นมา ท่านไม่ได้รับแจ้งปัญหาที่สำคัญต่อนโยบายหลักของท่านจากหน่วยงานราชการของท่านที่กำกับดูแลเลยใช่หรือไม่ และถ้าท่านได้รับรายงานการดำเนินการรังวัดและมอบสิทธิ ส.ป.ก.ในพื้นที่พิพากระหว่าง ส.ป.ก.กับกรมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ท่านมีการสั่งการอย่างไรบ้าง”นายอภิชาติกล่าว

ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ขอท้าวความเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ตนยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เริ่มมีการปักหมุดตรวจสอบแนวเขต จนมาถึงวันที่ออกเอกสารสิทธิ์ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน เป็นการส่อพิรุธ

“ผมไม่ได้รับรายงาน สิ่งที่ผมสั่งทันที คือ คุณมีพิรุธ ต้องดำเนินคดีคุณ ผมถึงย้ายทั้งหมด 6 คนเข้ากรุ ยังไม่พอ ดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา ขณะเดียวกันสั่งให้หยุดทั้งหมด”ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

นายอภิชาติถามคำถามสุดท้ายว่า มีแนวทางและมาตรการอย่างไรในการป้องกันปัญหาและจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสังคมอย่างไร และได้รับรายงานหรือไม่ว่า พื้นที่ทับซ้อนส.ป.ก.กับป่าอนุรักษ์อีกกี่แห่งที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเหมือนกับกรณีเขาใหญ่ 

ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า พื้นที่ทับซ้อนยังมีอีกจำนวนมาก เกิดขึ้นทุกที่ที่เป็นที่ดินปฏิรูปที่ดินในพื้นที่หน่วยงานของรัฐอีก 9 หน่วยงาน จึงต้องกลับมาทบทวน ถอดบทเรียนเขาใหญ่ ตนสั่งการไปชัดเจนว่า ต่อไปนี้พื้นที่ทับซ้อน ชายแดนระหว่างอุทยานป่าไม้กับสปก.ห้ามจัดให้เกษตรกรทำกินเด็ดขาด ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาก็คือต้องใช้วันแมปที่ชอบด้วยกฎหมาย 

“ผมได้ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ โดยมอบหมายให้ รองเลขาธิการ ส.ป.ก.เป็นหัวหน้าชุด เข้าพื้นที่ทั้งหมดที่จะแปลง สปก.4-01 ให้เป็นโฉนด เพื่อคัดกรอง ลงภาคสนาม ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมด จำนวน 1.7 ล้านครอบครัว เกษตรกรที่มีสิทธิทำกินที่ถือครองโฉนดเพื่อการเกษตร เกิน 5 ปี เข้าไปชำแหละว่า ให้เกษตรกรไปแล้วทำกินจริงหรือไม่”

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นเรื่องในครอบครัวตน ตนต้องไปลงโทษคนพวกนี้ “เหมือนนิ้ว 5 นิ้ว นิ้วไหนเน่าก็ต้องตัดทิ้ง” ข้าราชการที่ชั่ว ๆ ต้องถูกลงโทษลงทัณฑ์ ในยุคตนไม่มี ขออนุญาตใช้คำพูดคุณชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ว่า ไม่มีจบแบบหล่อ ๆ ไม่เขาก็เราต้องผิด เมื่อเราผิดเราต้องลงโทษทั้งวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับข้าราชการต่อไป 

“ที่สำคัญที่สุด ผมจะเอา ป.ป.ง.มาตรวจสอบเส้นทางการเงิน เจ้าของรีสอร์ทเตรียมตัวไว้เลยว่า สิ่งที่คุณสร้างมาตลอดชีวิต คุณจะเหลือศูนย์หรือติดลบหรือติดคุก ผมไม่เว้น ผมไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรม ว่าคุณเป็นเจ้าสัว หรือเป็นอะไร ผมจะเอาคืน”ร.อ.ธรรมนัสตอบทิ้งท้าย