“ภูมิธรรม” ดินเนอร์พรรคร่วมเย็นวันนี้ ปัดถกลับปรับครม.

25 ม.ค. 2567 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ม.ค. 2567 | 10:52 น.

รองนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ยืนยันดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเย็นวันนี้ ยืนยันแต่ร่วมคุยในวงกินข้าวปกติ ไม่มีคุยเรื่องปรับครม. รับตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณส่งมาจากนายกรัฐมนตรี

วันนี้ (25 มกราคม 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการนัดพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารค่ำวันนี้ ที่ร้านอาหารในจังหวัดปทุมธานีนั้น เป็นเพียงการรับประทานอาหารร่วมกันตามปกติ ไม่มีอะไร และไม่ได้มีการพูดคุยถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) 

“ไม่น่าจะมีใครหยิบยกมาพูด เราไม่เคยพูด โดยการปรับ ครม. เป็นเรื่องจากข้างนอกพูดเข้ามาเท่านั้น และจากการที่พูดคุยกันในพรรคก็ยังรู้สึกขำ ว่าทำไมเขาจึงอยากให้ปรับบ่อยเหลือเกิน เพราะมีข่าวมาเรื่อย ๆ” 

ทั้งนี้ยืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีสัญญาณส่งมาจากนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีการพูดชัดเจนหลายครั้ง รวมถึงแกนนำของแต่ละพรรคการเมืองก็มีการพูดคุยกันเป็นอย่างดี และยังสอบถามว่าเหตุใดจึงมีการนำเสนอข่าวจากภายนอกว่าจะมีการปรับ ครม. โดยรัฐบาล ยืนยันว่า ตอนนี้ไม่ต้องเอาประเด็นนี้มาถามได้เลย

ส่วนกรณีที่มีโควตารัฐมนตรีว่างอีก 2 ตำแหน่งนั้น ยอมรับว่า ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะขณะนี้การทำงานก็มีความพร้อม ส่วนตำแหน่งนั้นต้องดูว่าจะต้องจัดการอย่างไร ซึ่งก็ไม่ได้ปรับอะไร และเรื่องนี้ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี

“พวกเรายินดีทำงานหนักอยู่แล้ว เราก็ช่วยเหลือกัน ก่อนหน้านี้ที่บอกว่ากระทรวงพาณิชย์จะมีโควตารัฐมนตรีเพิ่มอีก 1 คน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และตนสามารถทำงานกับรมช.ได้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงาน แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกหนักจนทำงานไม่ได้ แต่หากได้คนที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ที่เหลืออยู่ และส่วนไหนที่ยังมีกำลังคนไม่เพียงพอ ก็อาจจะเข้าไปตรงนั้นก็ได้ ซึ่งตนไม่ได้ติดขัดอะไร”

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในส่วนของการนัดคุยกันกับพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ในฐานะที่เป็นแกนนำรัฐบาลก็ต้องฟังเสียงสะท้อนจากพรรคร่วม โดยรวมเท่าที่เห็นก็ทำงานร่วมกันได้ดี แต่ยอมรับว่ามีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้างเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีปัญหาก็สื่อสารกันเข้าใจกัน ทำงานร่วมกันได้ดี 

“พรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ไม่เหมือนพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา และเป็นพรรคร่วมที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขวิกฤตของประเทศ เราผ่านความทุกข์ยากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ด้วยกัน ฉะนั้นความเข้าอกเข้าใจกันก็มีมากกว่าส่วนอื่น”