คดี ม.112 ของ“แสลง”ก้าวไกล ลุยเดี่ยวนิรโทษกรรม

15 ธ.ค. 2566 | 08:30 น.

คดี ม.112 ของ“แสลง”ก้าวไกล ลุยเดี่ยวนิรโทษกรรม : รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3949 โดย...ทีมข่าวการเมือง

คดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 อันเกี่ยวข้องกับสถาบัน ดูจะเป็นของ “แสลง” สำหรับพลพรรคสีส้ม “ก้าวไกล” เพราะมีคดีรุมเร้าทั้ง มวลชน ส.ส. อดีตหัวหน้าพรรค และ อาจบานปลายไปถึงการ “ยุบพรรค” เอาได้  

กรณีน่าสนใจที่เพิ่งเกิดขึ้นคือ คดีของ “ไอซ์ รักชนก ศรีนอก” ส.ส.กทม. เขต 28 พรรคก้าวไกล ที่เจอศาลอาญา พิพากษาจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา ม. 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 

จากกรณีทวิตข้อความ และรีทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) ตั้งแต่ปี 2563 เมื่อครั้งมีบทบาทเป็น “นักเคลื่อนไหวทางการเมือง” ในลักษณะหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์

ยังดีที่ศาลอนุญาตให้ “ไอซ์ รักชนก” ได้ประกันตัวอุทธรณ์สู้คดี เพราะหากศาลไม่ให้ประกันตัว ก็ต้องส่ง “ไอซ์” เข้าเรือนจำ และต้องขาดคุณสมบัติพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ทันที 


นอกจาก “ไอซ์ รักชนก” แล้ว ยังมี ส.ส.ก้าวไกล ที่เคยเป็นนักกิจกรรม และถูกดำเนินคดีตาม ม.112 อีกอย่างน้อย 2 คน ประกอบด้วย “โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ” อดีตแกนนำการ์ดกลุ่มวีโว่ ที่ปัจจุบันเป็น ส.ส.กทม. เพิ่งถูกอัยการสั่งฟ้องต่อศาลกาฬสินธุ์ คดี ม.112 เมื่อกลางปี 2566 

โดย “โตโต้” ได้ยื่นหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวออกมา พร้อมกับติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ (EM) โดยศาลสั่งห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสีย และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

ถัดมาเป็น “ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว” อดีตนักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวทางการเมือง  ปัจจุบันเป็น ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล มีคดี ม.112 อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลอาญา ตั้งแต่กลางปี 2566 เป็นต้นมา โดยเจ้าตัวได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 

สำหรับพรรคก้าวไกล นอกจากคดี ม.112 แล้ว ยังมี “คดีใหญ่” ที่เสี่ยงจะนำไปสู่การ “ยุบพรรค” ได้ นั่นคือ  คดีกล่าวหาว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “พรรคก้าวไกล” ร่วมกันหาเสียงเพื่อดำเนินนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เข้าข่ายเป็นการ ล้มล้างการปกครองฯ  หรือไม่ 

คดีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 20 ธ.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการไต่สวนพยานบุคคลในวันจันทร์ที่ 25 ธ.ค. 2566 
อีกคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล นั่นคือ กรณีกล่าวหาว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ถือครองหุ้นสื่อ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

สถานะคดีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้เตรียมการไต่สวนพยาน ในวันที่ 20 ธ.ค. 2566 นี้ ...หลังไต่สวนเสร็จคาดว่าศาลจะนัดวินิจฉัย ได้ภายในเดือน ม.ค.2567

มรสุมคดี ม.112 ที่ถาโถมเข้าใส่ “ก้าวไกล” จึงไม่แปลงที่พรรคจะเคลื่อนไหวผลัดดันให้มีการ “นิรโทษกรรม” คดีชุมนุมทางการเมือง ที่หมายรวมถึงคดี ม.112 ด้วย

แม้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม จะถูกเสนอเข้าไปรอบรรจุเข้าสู่วาระการของพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่โอกาสที่พรรคก้าวไกลจะผลักดันให้ผ่านสภาฯ เดี่ยวๆ โดยไม่มีพรรคใหญ่ในขั้งรัฐบาลผสมโรงด้วย โอกาสที่กฎหมายจะผ่าน ไปได้ยากมาก เพราะเสียงของร่วมฝ่ายค้านที่มีอยู่ไม่เพียงพอ

                            คดี ม.112 ของ“แสลง”ก้าวไกล ลุยเดี่ยวนิรโทษกรรม

ขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” แม้จะสนับสนุนการนิรโทษกรรม แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าจะเห็นด้วยให้รวม คดี ม.112 หรือไม่ และได้มีความพยายามยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เพื่อประกบกับพรรคก้าวไกล 

สเต็ปแรกพรรคเพื่อไทย จะแสดงพลังเห็นพ้องต้องกันใน 11 พรรคร่วมรัฐบาล 314 เสียง ร่วมเสนอญัตติให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษารายละเอียดของการนิรโทษกรรม 

โดยมีพรรคที่เห็นด้วยแล้ว เช่น พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย ที่พร้อมสนับสนุนการนิรโทษกรรมผ่านการตั้งกรรมาธิการตั้งวงพูดคุย แต่ตั้งเงื่อนไขสำคัญคือ ไม่พ่วงคดี ม.112

ต้านนิรโทษกรรม ม.112

ดังที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาย้ำแล้วอีกว่า ไม่แตะ ม.112 จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยเราไม่มีปัญหากับ มาตรา 112 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถ้าหากมีการนิรโทษในส่วนของผู้ต้องหาคดีชุมนุมทางการเมืองที่ไม่ใช่ ม. 112 ก็มีเหตุมีผล

เช่นเดียวกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือ  รองโฆษกพรรค ออกมาแถลงถึงมติพรรคล่าสุดว่า พรรคมีจุดยืนชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรม แต่พรรคเห็นด้วยหากจะให้ประชาชนที่มีเจตนาบริสุทธิ์ในการใช้สิทธิเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 -2565 ไม่ต้องรับผิด โดยยกเว้น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ ผู้ที่มีความผิดใน มาตรา 112, ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกลุ่มที่กระทำผิดต่อชีวิตผู้อื่นจนทำให้ถึงแก่ความตาย 

ขณะนี้ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้เป็นผู้ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งใช้ชื่อว่าพ.ร.บ.สร้างสรรค์สังคมสันติสุข เพื่อนำเสนอประกบไปด้วย โดยเนื้อหารายละเอียดทั้งหมดได้ดำเนินการภายใต้จุดยืนหลักของพรรค คือการสร้างความสามัคคีปรองดอง

“ท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่อประเด็นนิรโทษกรรม เรายืนยันว่า จะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมความผิดกับผู้ที่กระทำผิดในมาตรา 112 ซึ่งเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน, ผู้กระทำผิดในข้อหาทุจริตและประพฤติมิชอบ และผู้ที่กระทำผิดที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่เราต้องการให้ยกเว้นโทษกับประชาชนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อสร้างเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสร้างสังคมที่สันติสุข” นายพงศ์พล กล่าว

ความพยายามของ “พรรคก้าวไกล” ในการนิรโทษกรรม ที่ให้พ่วงคดี ม.112 ด้วย จะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่ มารอดูกัน...