"ก้าวไกล" เดินหน้าดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าที่ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญ พิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชา กัญชง และกระท่อมอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เปิดเผยถึงแผนการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษ ว่าโดยหลักการคาดว่าน่าจะออกมาในรูปของพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เป็นผู้ตรากฎหมายแทนสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องมีเหตุจำเป็นและฉุกเฉิน

 สาระสำคัญ ของพระราชกำหนด หลักการคร่าวๆคือ นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ เพื่อให้การคุ้มครองผู้ที่ดำเนินการและทำธุรกิจตามที่ทำถูกกฎหมาย ไม่ให้กระทบ ที่ทำถูกต้องตามกฎหมายยังสามารถที่จะดำเนินกิจการต่อได้ มีการกำหนดเรื่องอายุ ไม่ให้กระทบเด็กและเยาวชน กำหนดสถานที่ ให้ควบคุมก่อนไม่ต้องให้ใบอนุญาตเพิ่ม

นายเท่าพิภพ กล่าวว่าในส่วนของรายละเอียดนอกจากนี้มีอะไรบ้าง ต้องรอความชัดเจน หลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จสิ้น ตามขั้นตอนต้องหารือร่วมกับ 7 พรรคร่วมรัฐบาล โดยตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณาร่วมกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมหารือในประเด็นนี้ รวมทั้งยังไม่มีการประชุมว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล เนื่องจากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่รับรองสมาชิกภาพส.ส.

ขั้นตอนภายหลัง ออกพระราชกำหนดกัญชา กัญชงฯแล้ว พรรคร่วมรัฐบาล จะหารือกันอีกครั้ง เพื่อเสนอเป็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชงฯ เข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เป็นกฎหมายที่กำกับการใช้กัญชาอย่างเหมาะสม ผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาจะมีกฎหมายรองรับให้ทำได้ตามสมควรส่วนในรายละเอียดว่า จะให้ใบอนุญาตแบบใด มีวิธีการหลักเกณฑ์อย่างไร ให้ชัดเจนมากขึ้นโดยฟังเสียงจากทุกฝ่าย

ในส่วนของความกังวลของผู้ประกอบการ และผู้ปลูก จะได้รับการคุ้มครองหรือไม่นั้น นายเท่าพิภพ ระบุว่าในบทเฉพาะกาลของกฎหมายที่ออกโดยพรรคภูมิใจไทย มีการคุ้มครองอยู่แล้ว คนที่ทำถูกกฎหมายก็ทำตามเดิม ถือว่าไม่เสียหาย จึงไม่ต้องมีแผนเยี่ยวยารองรับแต่อย่างไร
    

ทั้งนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แสดงจุดยืนของพรรคในการพิจารณาเนื้อหาร่างกฎหมายกัญชามาต่อเนื่องว่า ต้องเอากัญชากลับมาเป็นยาเสพติดด้วยการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 หรือออกประกาศฉบับใหม่มาแทนที่ฉบับก่อนหน้า

ขณะเดียวกันกฎหมายต้องไม่ยกเลิกสถานะการเป็นยาเสพติดของกัญชา โดยต้องยกเลิก มาตรา 3 ของร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง และต้องไม่เอื้อให้เกิดการผูกขาดกัญชาให้อยู่ในมือของกลุ่มทุนใหญ่ แต่ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์

สอดคล้องกับการชี้แจงของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่กล่าวถึง กระบวนการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้กัญชากลับไปอยู่ในบัญชีรายชื่อยาเสพติด ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากออกประกาศของสาธารณสุขนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จำเป็นต้องออกประกาศเพื่อคุ้มครองผู้ประกอบการหรือผู้ปลูก ผู้จำหน่ายที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย ให้ดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา

ในระหว่างการคุ้มครองนั้น จะเร่งจัดทำกฎหมายเพื่อควบคุม และออกกฎระเบียบในการใช้กัญชา คือ พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ และยังต้องมีบทเฉพาะกาลเพื่อคุ้มครองความเสียหายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น กรณีมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการควบคุมความเสียหายที่เป็นผลพวงจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งสร้างช่องโหว่ทำให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น จำเป็นต้องเยียวยาทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรมเช่นเดียวกัน