"บิ๊กตู่"ลงพื้นที่อยุธยา 3 มี.ค.นี้ ติดตามระบบชลประทานเจ้าพระยา

02 มี.ค. 2566 | 10:06 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มี.ค. 2566 | 10:22 น.

"นายกฯ"ลงพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3 มี.ค.นี้ ตรวจติดตามการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา-การปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่วัดใหม่หญ้าไทร

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และคณะ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา พร้อมรับฟังการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2566

สำหรับกำหนดการ มีดังนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. นายกฯ และคณะ ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แล้วเดินทางต่อไปยังวัดใหญ่ชัยมงคล ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้ากราบสักการะพระประธาน นมัสการเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล สักการะพระเจดีย์ชัยมงคล สักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์ และสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

 

จากนั้น นายกฯ จะเดินทางไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา และการจัดแสดงเครื่องทองอยุธยาและพระบรมสารีริกธาตุ แล้วเดินทางไปตรวจเยี่ยมสภาพโบราณสถานเพื่อเตรียมการบูรณะ ณ วิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

ต่อจากนั้น เวลาประมาณ 14.30 น. นายกฯ จะตรวจเยี่ยมบริเวณพื้นที่โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่วัดใหม่หญ้าไทร ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง

โดยนายกรัฐมนตรีจะกราบสักการะพระประธาน และนมัสการเจ้าอาวาสวัดใหม่หญ้าไทรก่อนไปติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก เพื่อการบริหารจัดการน้ำตลอดลุ่มน้ำเจ้าพระยา อันจะช่วยลดความเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม 

 

“จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีมูลค่าสูง มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งด้านกายภาพ ประวัติศาสตร์ และอารยธรรม นอกจากนี้ยังเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่ครอบคลุมเชื่อมโยงพื้นที่ของจังหวัดเข้ากับกลุ่มจังหวัดและภาคต่าง ๆ ของประเทศ

รองรับการขยายตัวทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม ธุรกิจการค้าต่าง ๆ ทั้งจากกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบตามเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดอยุธยาเมืองมรดกโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ น่าเรียนรู้ น่าอยู่ น่าลงทุน ซึ่งนายกฯ ให้ความสำคัญกับประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศ

พร้อมเดินหน้าตรวจติดตามความคืบหน้าและผลการดำเนินงานต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล และเร่งแก้ไขปัญหา มุ่งมั่นพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างครอบคลุม เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” นายอนุชา กล่าว