"สภาล่ม" ส.ส.ถล่มกฎหมายคุมสื่อล้าหลัง ปิดกั้นความเห็นต่าง

07 ก.พ. 2566 | 19:32 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2566 | 19:36 น.

"สภาล่ม" มีผู้แสดงตนเพียง 182 คน จาก 667 คน ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและวิชาชีพสื่อมวลชน ติดหล่ม ส.ส.ฝ่ายค้านถล่มเป็นกฎหมายล้าหลัง ปิดกั้นความเห็นต่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(7 ก.พ.66) ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและวิชาชีพสื่อมวลชน ที่มีสาระ สำคัญคือ การให้มีสภาผู้ประกอบการและนักวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนระดับชาติ ทำหน้าที่กำกับดูแลกันเองของผู้ประกอบการและผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งยังรับรองให้ผู้ประกอบวิชาชีพมีเสรีภาพเสนอข่าว แต่ต้องไม่ขัดหน้าที่ปวงชนชาวไทย หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน และไม่ปิดกั้นความเห็นต่างของบุคคลอื่น 

ทั้งยังกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิเสธการปฏิบัติตามคำสั่งที่มีผลเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมสื่อ ไม่ถือว่าขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่การใช้สิทธิต้องคำนึงถึงภารกิจหน่วยงานที่สังกัด เป็นต้น

ทั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายไปแนวทางเดียวกัน ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะวางกฎเกณฑ์ควบคุมการทำหน้าที่สื่อ จำกัดสิทธิเสรีภาพการทำหน้าที่สื่อมวลชน และไม่ผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นประชาชนอย่างถี่ถ้วน 

อาทิ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า  กฎหมายฉบับนี้ตกยุคล้าสมัย เป็นภาพลวงตา ผิดฝาผิดตัว โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรมที่วัดกันยาก เป็นกฎหมายที่ออกมาควบคุมสื่อที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐ ถ้าปล่อยให้กฎหมายนี้ออกไปจะมีการดำเนินการกับสื่อที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐ ควรให้สื่อมีสิทธิเสรีภาพ เสนอข้อมูลหลายด้าน

หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว ในเวลา 17.25 น. ได้ให้สมาชิกแสดงตนเป็นองค์ประชุม ปรากฏว่า มีผู้แสดงตนเพียง 182 คน จาก 667 คน ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จึงสั่งปิดประชุมในเวลา 17.45 น. ถือเป็นการประชุมร่วมรัฐสภาล่มครั้งที่ 4 ในปี 2566