ใจบันดาลแรง “บิ๊กป้อม-พปชร.”คึก ชิงนายกฯ คนที่ 30

01 ก.พ. 2566 | 06:30 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.พ. 2566 | 07:36 น.

ใจบันดาลแรง “บิ๊กป้อม-พปชร.”คึก ชิงนายกฯ คนที่ 30 : “ประชาชน ถ้าประชาชนเลือก ผมก็พร้อมและยินดีที่จะทำ แต่ถ้าไม่เลือก ผมก็กลับบ้าน”

“ถ้าถามว่าผมพร้อมไหม ผมก็ต้องพร้อม แต่จะได้หรือไม่ได้อยู่ที่ประชาชน ถ้าประชาชนเลือก ผมก็พร้อมและยินดีที่จะทำ แต่ถ้าไม่เลือก ผมก็กลับบ้าน ...วันนี้รู้แล้ว พร้อมแล้ว ผมพร้อม พร้อมที่จะเป็นนายกฯ แต่อยู่ที่คนเลือกนะครับ” 

นั่นคือคำประกาศของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียวของพรรค เมื่อถูกพิธีกรถามว่าวันนี้ถือว่าพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 แล้วใช่หรือไม่

คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นในงานระดมทุนของพรรค ภายใต้ชื่องาน "พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง" ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอกแอนด์ คอนเวนชัน เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อค่ำวันที่ 30 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา

ในงานระดมทุนดังกล่าว มีบุคคลทั่วไป ภาคเอกชน และ ผู้สนใจ ซื้อโต๊ะร่วมงาน  170 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 3 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 510 ล้านบาท

"บิ๊กป้อม"แจงใจบันดาลแรง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดใจในหัวข้อ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่” ช่วงหนึ่งกล่าวถึงคำพูดเรื่องใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ ว่า เป็นเพราะสังขารร่วงโรยมาก แก่แล้ว เลยต่อสู้ด้วยเอาใจบันดาล ทำให้มีกำลังใจ ให้แรงทำงานต่อไปได้ ซึ่งเมื่อพูดแล้วรู้สึกใจฟู

ส่วนที่ชอบตอบ “ไม่รู้” นั้น พล.อ.ประวิตร ชี้แจงว่า อาจจะรู้ แต่อยากให้ผู้รู้มากกว่ามาสั่งสอน มาบอกให้รู้เท่ากับคนที่รู้ คำว่า ไม่รู้คือ ไม่รู้จริงๆ เพราะคนที่รู้อยู่รอบตัวเยอะแยะ จะเอาความรู้คนใกล้ตัวมาใส่ตัว แต่ตอนนี้รู้แล้ว พร้อมแล้ว

ความสัมพันธ์ 3 ป.

สำหรับความสัมพันธ์กับ 3 ป. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตั้งแต่รับราชการทหาร ร่วมใจทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอด นอนบ้านเดียวกัน สนิทสนม เป็นกันเองอย่างพี่น้อง แม้จะแยกกันก็เฉพาะการเมือง และได้ใช้ความเป็นพี่ใหญ่ มาจนทุกวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องความจริงใจ ทำอะไร ไม่โกหก พูดตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ สุจริตมาตลอด อยากฝากบอกทุกคนว่า พูดอะไรทุกอย่างคือคำพูดจากใจ

ส่วนปัญหาที่อยากแก้ไขมากที่สุด พล.อ.ประวิตร ตอบว่า เรื่องความยากจน ชาวนาชาวไร่ เกษตรกรพวกหาเช้ากินค่ำ ก็ต้องดูแลคนเหล่านี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่ได้ต่อไป และจะทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป        

                          ใจบันดาลแรง “บิ๊กป้อม-พปชร.”คึก ชิงนายกฯ คนที่ 30                           


3 ขุนพลเสริมทัพ พปชร.


ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมแกนนำพรรค ให้การต้อนรับ นายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย และ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ที่กลับมาสมัครเป็นสมาชิก และเสริมกำลังให้กับ พปชร. 

พล.อ.ประวิตร บอกว่า  ทั้ง 3 คน จะมาช่วยให้พรรคมีความเข้มแข็ง โดย นายอุตตม จะมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจ นายสนธิรัตน์ จะช่วยดูเศรษฐกิจและการเมืองด้วย ส่วน พล.อ.วิชญ์ ช่วยทั้งพรรค

ส่วนจะป้องกันปัญหาเรื่องความขัดแย้งอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ที่ นายอุตตมและ นายสนธิรัตน์ ออกไปจากพรรคเพราะมีเรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไม่มีความขัดแย้ง ออกไปก็ไม่ได้ขัดแย้ง”

เช่นเดียวกับ นายอุตตม ที่ระบุว่า วันนี้เป็นเรื่องของการก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ได้มีอะไรติดใจ ตอนเดินออกไปก็ไม่มีอะไรขัดแย้ง เรื่องความเห็นต่าง เข้าใจไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา แต่วันนี้ตั้งใจว่าจะมาทำงานด้วยกัน

เป้าส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการ พปชร. กล่าวถึงเป้าหมายการเลือกตั้งส.ส. หลังได้ทั้ง 3 คน กลับเข้ามาร่วมทำงานว่า ของเก่า 116 ที่นั่ง แต่ตั้งเป้าจะได้ไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง 

“วันนี้ พปชร.มีผู้อาวุโส ผู้ที่มีความตั้งใจจะมาพัฒนาบ้านเมืองให้ประชาชนอยู่ดี มีงานทำ หลายคนกำลังจะเข้ามาร่วมกับเรา ร่วมใจกันพัฒนาประเทศ” นายสันติ ระบุ 


คิวบิ๊กป้อมเดินสายยาว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค พปชร. ได้จัดคิวให้ พล.อ.ประวิตร เดินสายลงพื้นติดตามการดำเนินงาน พบปะประชาชน และหาเสียง ไว้ดังนี้ วันที่ 1 ก.พ.2566 ลงพื้นที่ จ.นครปฐม และราชบุรี เพื่อติดตามการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำ 

ในช่วงเช้าไป จ.นครปฐม ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภาคกลางเขต 3 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี ติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำท่าจีน จากนั้นไปติดตามโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ที่วัดกลางบางแก้ว ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี และสะพานคลองบางแก้ว โดยจุดนี้มีพบปะพี่น้องประชาชนด้วย 

ส่วนช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร และคณะจะเดินทางไป จ.ราชบุรี เพื่อติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลองและ จ.ราชบุรี ที่สถานีผลิตน้ำโพธาราม และพบปะประชาชน ก่อนที่จะไปตรวจติดตามโครงการผลิตน้ำประปา ที่บริเวณข้างวัดบ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม เป็นจุดสุดท้าย

มีรายงานว่า การลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ของ พล.อ.ประวิตร ครั้งนี้ เป็นการเดินทางไปครั้งที่ 2 ในรอบครึ่งเดือน หลังจากเพิ่งลาประชุม ครม.เพื่อไปยังบ้าน นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เพื่อพบปะ ส.ส.ราชบุรี และนักการท้องถิ่น เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา 

ทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า การไปครั้งนี้ เป็นการไปตอกย้ำให้ ส.ส.ราชบุรี ของ พปชร. ยังอยู่กับพรรค รวมถึงดึงนักการเมืองใน “บ้านใหญ่ราชบุรี” ให้มาอยู่กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

สำหรับพื้นที่ อ.โพธาราม ที่ พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ ปัจจุบันมี นายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส. โดย นายชัยทิพย์ เป็น ส.ส.ในกลุ่มบ้านใหญ่ราชบุรี ของ นายวิวัฒน์ และอาจย้ายมาลงสมัคร ส.ส.ราชบุรี กับ พปชร. ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

นอกจากนั้น ในวันที่ 2 ก.พ. พล.อ.ประวิตร ยังมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการแก้มลิงบ่อโจ้โก้ พร้อมระบบส่งน้ำ บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และตรวจเยี่ยมโครงการ เติมน้ำ เติมบุญ เติมทุน พัฒนา อาชีพ พร้อมพบปะผู้นำท้องถิ่น และประชาชน จ.มุกดาหาร จากนั้นในวันที่ 8 ก.พ. ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ วันที่ 13 ก.พ. ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี