“หมอธีระวัฒน์”เตือนระวังเจอ “ใบสั่งปลอม” หลอกโอนเงินค่าปรับผิดกฎจราจร 

04 ธ.ค. 2565 | 15:56 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2565 | 23:16 น.
1.6 k

“หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา”โพสต์เตือนผู้ขับขี่รถระวังเจอ “ใบสั่งปลอม” หลอกให้โอนเงินออนไลน์เป็นค่าปรับทำผิดจราจร แนะไปสถานีตำรวจดีกว่า “อะไรๆ ตอนนี้ ดูไม่น่าไว้ใจ”  


วันนี้(4 ธ.ค.65) นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha แจ้งเตือนผู้ขับขี่รถระวังเจอ “ใบสั่งปลอม” หลอกให้โอนเงินค่าปรับทำผิดจราจร โดยระว่า 


“ใบสั่งแบบนี้มันจะไปติดที่หน้าต่างรถ อย่า scan จ่ายเด็ดขาด มันของปลอม เพื่อนเพิ่งได้รับมา เพื่อนๆ ใน FB นี่ บางท่านบอกว่าจริง หรือ บอกว่า เนียน หลอก? สมมติว่าได้มาติดที่รถ หมอว่าไป สถานีน่าจะดีกว่าครับ อะไรๆ ตอนนี้ ดูไม่น่าไว้ใจ” 

                     “หมอธีระวัฒน์”เตือนระวังเจอ “ใบสั่งปลอม” หลอกโอนเงินค่าปรับผิดกฎจราจร      ใบสั่งจราจรปลอม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 9 ม.ค.2566 นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พร้อมด้วย กรมการขนส่งทางบก (ขส.) , ธนาคารกรุงไทย (KTB) , บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ได้ประสานมือกันเอาจริงกับผู้กระทำผิดกฎจราจรซ้ำซาก ด้วยการนำระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือ ระบบ “ตัดแต้มใบขับขี่” มาบังคับใช้ ภายใต้สโลแกน "มุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัย ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ สร้างความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และเป็นมาตรฐานสากล"

 

สำหรับระบบตัดแต้มใบขับขี่ ผู้มีใบขับขี่ มีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน (ไม่ว่าจะมีใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม หากทำผิดกฎจราจร จะถูกตัดคะแนนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จากฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้


ตัด 1 คะแนน เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ


ตัด 2 คะแนน เช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง)


ตัด 3 คะแนน เช่น ขับรถชนแล้วหนี


ตัด 4 คะแนน เช่น เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด


ผู้ทำผิดกฎจราจรเมื่อถูกตัดแต้ม จนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ หรือห้ามขับรถ (ทุกประเภท) เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว  


หากถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน หากถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่อีก เป็นครั้งที่ 4 อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่


 หากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 156

 

สำหรับหลักเกณฑ์การคืนคะแนน คืนคะแนนอัตโนมัติ เมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้นๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ โดยได้รับคืนเพียง 8 คะแนน


คืนคะแนนโดยวิธีการเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมี 2 กรณี 


กรณีที่คะแนนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ (อบรมได้เพียงปีละ 2 ครั้ง)


กรณีที่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน และต้องการคะแนนกลับคืนมาทั้งหมด 12 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ เมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขจะได้รับคืนคะแนนตามที่กำหนด 


โดยผู้ประสงค์เข้ารับการอบรมและทดสอบเพื่อขอคืนคะแนน สามารถแจ้งความประสงค์พร้อมหลักฐานใบอนุญาตขับขี่ หรือ บัตรประจำตัวประชาชน ณ กรมการขนส่งทางบก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (อาคาร 8) หรือ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด

 

ส่วนช่องทางการตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ 1.ทางเว็บไซต์ E-Ticket PTM ซึ่งพัฒนาโดยธนาคารกรุงไทย สามารถตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ จ่ายค่าปรับ ตรวจสอบคะแนนความประพฤติ และตรวจสอบสถานะใบขับขี่


2.แอปพลิเคชัน ขับดี (KHUB DEE) ซึ่งพัฒนาโดย NT เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร และตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติ และดำเนินการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่อันเป็นประโยชน์ต่างๆ ที่ทันสมัย


3.แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ให้บริการชำระค่าปรับผ่านระบบออนไลน์