ส่องโอกาส “บิ๊กตู่” นายกฯ สมัย 3 “ยาก!!”
ส่องโอกาส“บิ๊กตู่” นายกฯ สมัย 3 “ยาก!” : คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย.... "ว.เชิงดอย" หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3839 หน้า 4
*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3839 ระหว่างวันที่ 27 ต.ค.-30 พ.ย. 2565 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย
*** นับจากช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้ ไปจนถึง 23 มี.ค.2566 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของ “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ก็เหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือนเท่านั้น ที่จะครบวาระของรัฐบาล และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็น 4 เดือน ที่ “เผลอแป๊บเดียว” ก็หมดเวลาแล้ว แต่สำหรับอนาคตทางการเมืองของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น เริ่มชัดเจนแล้วว่า “ไปต่อ” แม้เหลือระยะเวลาการเป็นนายกฯ ได้อีกเพียง 2 ปี ครบ 8 ปี ในปี 2568 ก็ตาม ชัดเจนว่า เดินแยกทางกับ พี่ใหญ่-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปสร้าง “ดาวดวงใหม่” ร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
*** เหตุที่ “บิ๊กตู่” ยังไปต่อบนถนนการเมือง ก็คงหวังว่า “ตัวเอง” มีโอกาสที่จะได้กลับมาเป็น “นายกฯ สมัย 3” เพราะยังมั่นใจเสียง “250 ส.ว.” ที่มีอยู่ในมือ จะทำให้ได้เปรียบในยามเมื่อมีการ “โหวตนายกฯ” ในสภาฯ ...แต่คงไม่ใช่เรื่อง “กล้วยๆ” เพราะหาก “บิ๊กตู่” ยังเดินต่อทางการเมือง โดยแยกออกจาก “พรรคพลังประชารัฐ” ของ “พี่ป้อม” แล้วไปร่วมกับพรรคน้องใหม่อย่าง “รวมไทยสร้างชาติ” โอกาสที่จะทำให้ได้เสียงส.ส.ถึง 25 ที่นั่ง เพื่อให้เพียงพอในการเสนอชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ” ในสภาฯ คงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ เพราะการแข่งขั้นรอบนี้จะต่อสู่กันเข้มข้นดุเดือด ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร เพราะพรรคเพื่อไทย ของ ทักษิณ ชินวัตร ชูยุทธการ “แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” จองเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 เอาไว้แล้ว
*** ขณะที่ความนิยมในตัว “บิ๊กตู่” เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ต้องยอมรับว่า “ลดน้อยถอยลง” เป็นอย่างมาก “ความสงบจบที่ลุงตู่” ก็คงงัดมาหาเสียงอีกรอบไม่ได้แล้ว และ ส.ส.คนใดก็ตามที่คิดจะย้ายตามไปกับ “บิ๊กตู่” ก็ต้องคิดดูให้ดีดี
*** หันไปดูพรรคน้องใหม่ “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และที่ปรึกษานายกฯ ได้ไปสร้างนั่งร้านรอไว้แล้ว ประกอบกับมี เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ร่วมเป็นแกนนำ แนวโน้มที่จะทำให้ได้ ส.ส.ถึง 25 ที่นั่ง ไม่ใช่เรื่องหมูๆ เพราะพรรคใหม่ “จุดขาย” ยังไม่ชัดเจน นโยบาย “ไม่โดน” เห็นมุ่งเป้าหวังไปกอบโกย ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ไปแย่งฐานคะแนนเสียงพรรคเก่าอย่าง “ประชาธิปัตย์” ก็ไม่ใช่มีเฉพาะประชาธิปัตย์หลอก ที่หวังมัดใจประชาชน ยังมี พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชาติ และพรรคอื่น ๆ เปิดศึกแย่งชิงเก้าอี้ส.ส.กันหนักหน่วง เป้าที่พรรค “รวมไทยสร้างชาติ” จะเอาให้ได้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ 50 ที่นั่งขึ้นไป หรือจะเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ...ไม่ได้ดูถูก หรือ ปรามาส นะ แต่วิเคราะห์วิจารณ์ไปตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ มันมองได้อย่างนั้นจริงๆ
*** “ดูด้วยตาแล้วคงยากที่จะครบองค์ประชุม ขอบคุณคนที่มา ส่วนใครที่ไม่มาจะขอเปิดชื่อให้ชาวบ้านไปถามกันเองว่า ทำไมไม่มาประชุม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ขอปิดประชุม” เป็นความ “หน่ายใจ” ของ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทำหน้าที่ประธานการประชุมสภาผู้แทนฯ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา นำไปสู่เหตุการณ์ “สภาล่มซ้ำซาก” จนทำให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น วาระ 2-3 ตามที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ต้องมีอันเลื่อนการพิจารณาลงมติออกไป เนื่องจากมี ส.ส.เข้าประชุมบางตา แม้จะมีสมาชิกมาแสดงตน 244 เสียง เกินกึ่งหนึ่งมาแค่ 7 เสียง จากจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 474 คน แต่พอถึงเวลาจะโหวตลงมติ กลับมีส.ส.อยู่น้อยมาก ประธานจึงสั่งปิดประชุมในที่สุด ...เหตุการณ์ “สภาล่ม”ครั้งนี้ ทำให้ได้กลิ่น “ยุบสภา” โชยมาแรง...
***ปิดท้ายกันที่... กิจกรรมดีดีเพื่อสังคม เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา “ผู้ร่วมอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน รุ่น 16” หรือ วพน. 16 นำโดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ประธานรุ่น ได้จัดโครงการ CSR วพน. 16 เพื่อชุมชนท่ามะนาว มอบเครื่องสูบน้ำ และ ระบบไฟฟ้าสาธารณะด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ณ ตำบลท่ามะนาว อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี โดยได้มอบระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ (Solar Floating) ขนาดกำลังการผลิต 2,040 วัตต์ มูลค่า 60,000 บาท จำนวน 1 ชุด เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้ในการสูบน้ำ ให้กับสมาชิกเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรปลอดภัยตำบลท่ามะนาว จำนวน 20 ราย ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนมีน้ำที่เพียงพอต่อการทำการเกษตร และช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันสำหรับการสูบน้ำ
*** พร้อมทั้งมอบ ระบบไฟฟ้าสาธารณะด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar LED Street Lighting) ขนาดกำลังการผลิต 400 วัตต์ จำนวน 8 ชุด มูลค่า 40,000 บาท เพื่อให้ชุมชนหมู่ที่ 4 ต.ท่ามะนาว จำนวน 120 ครัวเรือน และประชาชนที่สนใจศึกษาดูงาน ได้ใช้ไฟสาธารณะประโยชน์ บริเวณถนนหน้าโรงเรียนบ้านท่ามะนาว ซึ่งเป็นถนนที่จะใช้ผ่านไปยังศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของตำบลท่ามะนาว และเป็นถนนสายหลักที่ชุมชนใช้ในการสัญจร …ขณะเดียวกันยังได้มอบทุนให้โรงเรียนบ้านท่ามะนาว เป็นเงินจำนวน 20,000 บาทอีกด้วย
*** พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ประธาน วพน. รุ่น 16 บอกว่า โครงการนี้เริ่มมาจาก วพน. รุ่น 16 ได้ทราบว่า ทางชุมชนท่ามะนาว มีความต้องการการสนับสนุนระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และจากการลงพื้นที่ได้เห็นถึงความต้องการของชุมชน ทางคณะกรรมการรุ่นจึงมีมติร่วมกันพิจารณาสนับสนุน ระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ และ ระบบไฟฟ้าสาธารณะด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ คณะผู้เข้าอบรม วพน. รุ่น 16 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชาวชุมชนท่ามะนาวจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ และขอให้ท่านช่วยกันรักษาอุปกรณ์นี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชุมชนให้ยั่งยืนถาวรต่อไป...