“สุพล ฟองงาม”ประกาศขอทำสงครามครั้งสุดท้าย ดัน“สมคิด”นั่งนายกฯ

05 พ.ย. 2565 | 13:38 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2565 | 21:21 น.

“สุพล ฟองงาม” ชำแหละ 16 ปีแห่งความขัดแย้ง ขอโทษประชาชนเคยเป็นประธานคนเสื้อแดง ฝันอยากเห็นประเทศไทยไม่แบ่งสี ระบุอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย เป็นที่มั่นทำสงครามครั้งสุดท้ายทางการเมือง ดัน “สมคิด” นั่งนายกฯ

วันที่ 5 พ.ย. 2565 ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และประธานภาคอีสานของพรรค กล่าวตอนหนึ่งระหว่างงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ว่า ตนขอเล่าเหตุการณ์ 16 ปีแห่งความขัดแย้ง ตั้งแต่ปี 2548  เกิดม็อบไล่รัฐบาล จนถึงทุกวันนี้พรรคการเมืองเถียงกันเป็นคนละฝ่าย สาดสีใส่กัน 8 ปีฉิบหายพอแล้ว หมายถึงรัฐบาลปัจจุบัน อีกฝ่ายอำนาจก็บอกว่า ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ถ้าโกงกิน ขัดแย้งรุนแรง เผาบ้านเผาเมือง ก็ต้องยึดอำนาจ


“ผมกำลังจะบอกพี่น้องว่า ตัดสินใจเที่ยวนี้เป็นสงครามเที่ยวสุดท้ายทางการเมือง เป็นพรรคสุดท้ายแล้ว ไม่มีอีกแล้ว พอแล้ว เพราะตอนได้รับการชักชวนจากนายสนธิรัตน์ ให้เข้ามาร่วมพรรค บอกผมว่า 1.ต้องได้คนดี 2.ต้องได้คนเก่ง บ้านเมืองถึงจะไปรอด 

ดังนั้นการตั้งพรรคไม่ใช่เรื่องง่าย  เอาแค่ตามกฎหมายก็ยากแล้ว ตั้งแล้วให้ได้ ส.ส.ยิ่งยากไปใหญ่ แต่ต้องตั้ง บ้านเมืองต้องการคนดี ต้องการคนเก่ง บ้านเมืองวิกฤติ หากบ้านเมืองเป็นคนป่วย ก็เป็นมะเร็งระยะที่ 3-4 จะเอาหมอจบใหม่มารักษาไม่ได้ 


แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เอาคนรุ่นใหม่ แต่ต้องเอาคนมีประสบการณ์เข้ามาแก้ไขบ้านเมือง เชื่อว่าถ้าเอาผู้นำในประเทศ แคนดิเดตทั้งหลายมายืนใส่กัน มาอ่านคุณสมบัติใส่กัน คนที่มีความรู้ความสามารถ คนที่มีประสบการณ์ มีผลงาน และที่สำคัญที่สุด พูดได้เต็มปากว่าเป็นคนดี พิสูจน์แล้ว เป็นรองนายกฯ กี่ครั้ง รมว.คลัง กี่หน แก้วิกฤติมามากมาย มีใครดีกว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่”

นายสุพล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศต้องกู้วิกฤติด้วยมือพี่น้องประชาชน ต้องกู้วิกฤติด้วยระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น การปฏิวัติไม่ใช่คำตอบ คำตอบอยู่ที่พี่น้องประชาชน เลือกให้เป็น คิดให้ถี่ถ้วน อย่าใช้อารมณ์ในการเลือก ใช้เหตุผลในการเลือก ให้ตนเป็นรัฐมนตรีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ก็ไม่เป็น เพราะไม่มีความรู้ด้านนั้น ต้องเอาคนเก่ง มีประสบการณ์ บ้านเมืองถึงจะไปได้ 


เพราะฉะนั้นพรรคนี้ตั้งขึ้นมา ต้องการแก้ไขปัญหาปากท้องเศรษฐกิจ เป็นอันดับแรก ต่อมาคือ การก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้นปัญหาบ้านเมืองในรอบ 16 ปีแห่งความขัดแย้งที่ผ่านมา ทหารบอกว่า ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ไม่โกงกิน ไม่เผาบ้านเผาเมือง ก็ไม่ปฏิวัติ นี่คือทหาร มีเหตุเพื่อห้ามคนตีกันแล้วจะรีบไป แต่ดันอยู่ถึง 8 ปีแล้วทุกวันนี้ ดังนั้นเรามาร่วมกันสร้างอนาคตไทย


“ผมขอโทษพี่น้องประชาชน ผิดไปแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ใส่เสื้อแดง ผมเคยเป็นประธานเสื้อแดง แต่ตอนเผาบ้านเผาเมืองไม่ได้สั่ง ตอนนี้เวลาดูแผนที่ประเทศไทยทางการเมือง เจ็บปวด แผนที่อีสานกับเหนือสีแดง ภาคกลาง ภาคตะวันออก สีเหลือง แดงแจมหน่อย ๆ ภาคใต้เป็นสีเหลือง ผมเจ็บปวด ประเทศไทยต้องไม่มีแบ่งสี ไม่สามารถแบ่งประเทศได้โดยสี เพราะเราเป็นคนไทยเหมือนกัน อย่ามาแบ่งสี อย่ามาเหลืองทั้งแผ่นดิน อย่ามาแดงทั้งแผ่นดิน อย่าเอาชื่อหัวหน้า นปช. มาให้ผม ผมไม่เอา ผมพอแล้ว” นายสุพล ระบุ