ศรีสุวรรณ ร้องกกต. สอบ"พปชร."รับบริจาค 3 ล้าน จากนายทุนผับจีน บ่ายวันนี้

28 ต.ค. 2565 | 09:03 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ต.ค. 2565 | 16:44 น.

"ศรีสุวรรณ" เตรียมร้องกกต.สอบพรรคพลังประชารัฐ ปมรับบริจาค 3 ล้านจาก" ชัยณัฐร์ " นายทุนผับจีน บ่ายโมงวันนี้ หลัง สมศักดิ์ ยอมรับ" ชัยณัฐร์ "บริจาคเงินเข้าพรรคจริง แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ด้าน"นิพิฏฐ์"ชี้เสี่ยงยุบพรรค

วันที่ 28 ต.ค.65 วันที่ 28 ต.ค. 65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ในวันเดียวกันนี้เวลา 13.00 น. จะเดินทางไปร้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้สอบพรรค พลังประชารัฐ(พปชร.) กรณีรับบริจาค 3 ล้านจากนายทุนผับจีน

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ที่มีกระแสข่าวว่าอาจเกี่ยวข้องกับการบุกทลายผับย่านยานนาวา  มีชื่อบริจาคเงินให้พรรคพปชร. 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 เป็นเรื่องจริง

 

ศรีสุวรรณ ร้องกกต. สอบ\"พปชร.\"รับบริจาค 3 ล้าน จากนายทุนผับจีน บ่ายวันนี้


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่บุคคลบริจาคเงินให้กับพรรค ทางพรรคไม่สามารถรู้รายละเอียดส่วนลึกของแต่ละบุคคลได้ เพียงตรวจดูว่าเงินมาในรูปแบบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้กำหนดไว้ถูกต้องครบถ้วน โดยยืนยันว่าไม่รู้จักนายชัยณัฐร์ เป็นการส่วนตัว  ถ้ามีก็ถูกยุบพรรค

 

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ภาคใต้ เผยทางเฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า แปลงสัญชาติ แล้วบริจาคเงินให้พรรคการเมือง

 

– สมศักดิ์ เทพสุทิน ยอมรับว่า นายชัยณัฐร์ เจ้าของผับดังย่านยานนาวา ที่มีคนจีน 100 กว่าคน เข้าไปมั่วสุมยาเสพติด บริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3,000,000 บาท ที่เป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้


– นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รับว่า เจ้าของผับบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3,000,000 บาท เป็นเรื่องจริง
-ผมตกใจ เพราะ

 

1.นายชัยณัฐร์เป็นคนสัญชาติจีน ทราบตามข่าวต่อมาว่าได้ขอแปลงสัญชาติ จนได้สัญชาติไทย และน่าจะได้สัญชาติไทย ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ ม.12

 

2.ปัญหามีต่อไปว่า ขณะบริจาค นายชัยณัฐร์สละสัญชาติจีนแล้วหรือยัง เพราะตาม พ.ร.บ.เพราะหากยังถือ 2 สัญชาติ แล้วมาบริจาคเงินให้พรรคการเมือง สุ่มเสี่ยงต่อการเลี่ยงกฎหมาย พรรคการเมืองที่รับบริจาค จะมีความผิดตาม ม.74 อันอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ ตาม ม.92

 

3.ต้องดูว่าผับของนายชัยณัฐร์จัดตั้งเป็นนิติบุคคลชื่ออะไร มีใครถือหุ้น สัดส่วนเป็นเช่นไร มีนอมินีถือหุ้นแทนต่างด้าวหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นต้องดูลึกไปอีกว่าเงิน 3 ล้านของนายชัยณัฐร์เป็นเงินส่วนตัว หรือเงินที่ถอนมาจากนิติบุคคล ที่มีนอมินีเป็นผู้ถือหุ้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นนิติบุคคลที่เปิดผับก็ถือนิติบุคคลต่างด้าวนั่นเอง บริจาคเงินก็ผิดตาม ม.74(2) ยุบพรรคได้

 

4.พฤติกรรมของ นายชัยณัฐร์เข้าข่ายถูกเพิกถอนสัญชาติตาม ม.19 แล้ว

– เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อโดยพรรคพลังประชารัฐต้องตอบ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้อนุญาตให้แปลงสัญชาติ ต้องตอบ สุดท้าย กกต.ก็ต้องตอบ แต่ที่เอ่ยนามมาทั้งหมด เราจะเชื่อถือใครได้บ้าง เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ