"บิ๊กตู่ - นายกฯสปป.ลาว" วางศิลาฤกษ์ สะพานมิตรภาพแห่งใหม่ 28 ต.ค.นี้

26 ต.ค. 2565 | 11:03 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2565 | 18:26 น.

“โฆษกรัฐบาล” เผย "บิ๊กตู่"เป็นประธานร่วมกับ “นายกฯ สปป. ลาว” ในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ 28 ต.ค.นี้


วันที่ 26 ต.ค. 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเดินทางเป็นประธานร่วมกับ นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

 

ในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ณ บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 
 

โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 นี้ เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันในช่วงที่นายกรัฐมนตรี สปป. ลาวเยือนไทยเมื่อวันที่ 1 - 2 มิถุนายน 2565 โดยสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 นี้ มีความยาว 1.35 กิโลเมตร แบ่งเป็นฝั่งไทย 0.815 กิโลเมตร และฝั่งลาว 0.535 กิโลเมตร

 

สะพานแห่งนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยกับ สปป. ลาว และส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคระหว่างไทย - ลาว - เวียดนามบนเส้นทางหมายเลข 8 (R8) เชื่อมต่อกับมณฑลกว่างสีของจีนได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่าสะพานแห่งนี้จะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน2567

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 นี้ เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันในช่วงที่นายกรัฐมนตรี สปป. ลาวเยือนไทยเมื่อวันที่ 1 - 2 มิถุนายน 2565 โดยสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 นี้ มีความยาว 1.35 กิโลเมตร แบ่งเป็นฝั่งไทย 0.815 กิโลเมตร และฝั่งลาว 0.535 กิโลเมตร

 

สะพานแห่งนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยกับ สปป. ลาว และส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคระหว่างไทย - ลาว - เวียดนามบนเส้นทางหมายเลข 8 (R8) เชื่อมต่อกับมณฑลกว่างสีของจีนได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่าสะพานแห่งนี้จะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2567


ในการเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสได้หารือทวิภาคีกับนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ทั้งในรูปแบบทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งทั้งไทยและ สปป. ลาว ต่างต้องการที่จะผลักดันความเชื่อมโยงระหว่างกัน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาร่วมกัน