“สุวัจน์” ดึง “กรณ์” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคชาติพัฒนา สู้ศึกเลือกตั้ง
“สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานพรรคชาติพัฒนา เปิดบ้านแถลงดึง “กรณ์ จาติกวณิช” นั่งหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของพรรค รับเป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจช่วยกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ยันไม่ควบรวมพรรคกล้า ด้าน กรณ์ รับมาในนามส่วนตัว ไม่ใช่พรรค ปัดลาออกหัวหน้า
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงทิศทางการเมือง โดยนายสุวัจน์ ระบุว่า พรรคชาติพัฒนา ไม่ได้รวมพรรคกับพรรคกล้า เพียงแต่ดึงนายกรณ์ จาติกวณิช เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค เพื่อมาร่วมกันกอบกู้วิกฤตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
“วันนี้ที่เชิญมาครังนี้ไม่ได้เป็นการรวมพรรค แต่เชิญนายกรณ์ จาติกวณิช มาร่วมกันทำงานเห็นว่าเป็นมืออาชีพทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งในต่างประเทศ ในประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเข้าใจเศรษฐกิจรากหญ้า ทั้งหมดนี้ เชื่อมั่นว่า นายกรณ์ จะเป็นผู้มาร่วมกันแก้วิกฤตเศรษฐกิจร่วมกัน ขั้นตอนต่อไปที่เป็นเรื่องรายละเอียดที่ต้องทำให้ครบถ้วน” นายสุวัจน์ ระบุ
ทั้งนี้ยอมรับว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจเจอวิกฤตหนักที่สุดตั้งแต่ทำงานการเมืองมา 30 ปี จึงต้องการมืออาชีพทางด้านเศรษฐกิจมาทำงานร่วมกัน มาจับมือกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของชาติ ซึ่งนายกรณ์ เป็นผู้มีประสบการด้านเศรษฐกิจโดยตรง เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผ่านวิกฤตอย่างแฮมเบอร์เกอร์
รวมทั้งมีประสบการณ์ทำงานภาคเอกชน การเงิน และการคลัง สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในระดับสากล และเป็นมืออาชีพที่ พิสูจน์ผลงานมาให้เห็นชัดเจน และเข้าใจรากหญ้า เพรามีประสบการเป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งเข้าใจบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้ง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โลกร้อน และสงครามรัฐเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และภาวะเงินเฟ้อ
ประธานพรรคชาติพัฒนา ระบุว่า นายกรณ์จะมีหน้าที่ทำอะไรบ้างนั้น ในรายละเอียดขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคที่จะหารือกัน ซึ่งตอนนี้ ผู้บริหารพรรค 7 คนลาออกไปจึงต้องมีผู้มาทำงานต่อ โดยมี ทั้งประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง และเทคโนโลยี ส่วนนายกรณ์จะเชิญทีมใครมาก็ค่อยดูในรายละเอียดอีกที
นายกรณ์ จาติกวณิช กล่าวว่า การมาร่วมมือทำงานให้กับพรรคชาติพัฒนาครั้งนี้มาในฐานะนายกรณ์ จาติกวณิช เพื่อมาจับมือกัน รวมพลังทำงานด้วยกัน ส่วนขั้นตอนทางกฎหมายพรรคการเมืองเป็นไปตามขั้นตอน และต้องระมัดระวังในข้อกฎหมาย ส่วนพรรคกล้าก็เป็นเรื่องของทางพรรคกล้า ที่จะมีกระบวนการต้องพิจารณาเดินต่อตามขั้นตอนทางกฎหมาย
“ผมเองกับพรรคพวกที่พรรคกล้าพูดคุยกันและมีเจตนาตรงกันว่า ในส่วนของผมเองที่ตัดสินใจตรงนี้ ทุกคนเห็นตรงกันส่วนขั้นตอนนำไปสู่การต่อสู้ในการเลือกตั้งคงต้องดูกันต่อ และได้คุยกับทีมพรรคกล้าแล้ว และก็พร้อมจะร่วมงานด้าย แต่ตอนนี้ยังระบุรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ได้หมด”
ส่วนกรณีการเข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนาแล้วจะลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคกล้า หรือไม่ นายกรณ์ ไม่ได้ขยายความเรื่องนี้ชัด เพียงแต่บอกว่า ต้องดูตามกฎหมาย และวันนี้มาในนามตัวเอง ไม่ใช่พรรค
