มติ“ฝ่ายค้าน” ส่งศาลรธน.ตีความ ปมนายกฯ 8 ปี

09 ส.ค. 2565 | 14:22 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ส.ค. 2565 | 22:26 น.

หมอชลน่าน เผย“ฝ่ายค้าน” มีมติเลือกใช้แนวทางผ่านสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ปมนายกฯ 8 ปี เตรียมยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯในวันที่ 17 ส.ค.นี้ แนะ ส.ว.ใช้แนวทางเดียวกันนี้ ยื่นตีความได้เช่นกัน

วันที่ 9 ส.ค.65 ที่พรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกัน ที่จะใช้ช่องทางของรัฐสภา ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 170 ในการตรวจสอบคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี โดยจะรวบรวมรายชื่อ ส.ส. ในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย

 

เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเบื้องต้น ได้ให้เลขาธิการพรรคเพื่อไทยไปประสานกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเตรียมยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯในวันที่ 17 สิงหาคมนี้
 

    นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว  

นายแพทย์ชลน่าน ยังย้ำว่า แนวทางผ่านสภา ถือเป็นแนวทางตรงที่สามารถทำได้ ซึ่งหากวุฒิสภาจะยื่นในลักษณะเดียวกัน ก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนแนวทางยื่นผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง ก็เป็นอีกช่องทางที่สามารถทำได้ แต่มติของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้ยึดแนวทางนั้น แต่ก็ไม่ปิดทางหากจะมีสมาชิกคนใด เลือกแนวทางที่จะยื่นต่อ กกต.

 

 

ทางด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคพท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่าวันนี้มีการสร้างกระแสที่ผิด สร้างตรรกะที่ผิดกันเยอะว่า เรื่อง 8 ปีเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ตนบอกเลยว่าผิด ที่จริงแล้วเป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ ถ้านับเลขถูก 1-8 ท่านจะรู้ว่าควรจบที่ไหน

 

เมื่อรู้ว่าจบที่ไหนก็ให้ดูที่ข้อกฎหมาย ดูเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญและข้อเท็จจริงว่าที่บัญญัติเรื่องนี้เพราะอะไร หากดูแล้วจะรู้ได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์นั่นแหละที่จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง อย่าให้เป็นภาระของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นภาระของประชาชนที่ต้องออกมาแสดงความแตกต่าง อาจนำไปสู่การปะทะกันทางความคิด แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังคิดไม่ได้ หรือไม่มีสำนึกในเรื่องนี้ ตรงนั้นถึงจะไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ

 

“ต้องเอาให้ชัดว่าคนแรก หน้าที่แรกต้องเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งการใช้ศาลมาตัดสินคน เป็นกระบวนการที่คนพูดคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว โดยทั่วไปศาลจะทำหน้าที่ ต่อเมื่อคนพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าคนพูดคุยกันรู้เรื่อง ศาลจะไม่ต้องทำหน้าที่ จึงขอฝากสังคมและฝากพล.อ.ประยุทธ์ด้วย” 

 

 เจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกฯมิให้เกิน 8 ปี ชัดเจนว่า เพื่อไม่ให้เกิดการอยู่ต่อเนื่องยาวนานเกินไป อาจเกิดความขัดแย้งและเกิดวิกฤติการเมือง มันคือข้อกังวลและเจตนารมย์ที่ออกกฏหมายนี้มา แต่เมื่อมาดูข้อเท็จจริงว่าวันนี้ครบ 8 ปีแล้วหรือยัง คงไม่ต้องถามว่านับเมื่อไร ข้อเท็จจริงวันนี้มันกำลังจะเกิดความขัดแย้งขึ้นหรือยัง ข้อเท็จจริงวันนี้มันกำลังจะเกิดความขัดแย้งขึ้นหรือยัง และจะเกิดวิกฤติทางการเมืองหรือไม่