"บิ๊กป้อม”อารมณ์ดี โยนเรื่องปรับครม.นั่งควบ“มท.1”แล้วแต่นายกฯ 

23 ก.ค. 2565 | 12:02 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2565 | 19:08 น.

"บิ๊กป้อม”อารมณ์ดีหลังผลโหวตอภิปรายไมไว้วางใจได้คะแนนสูงสุด โยนเรื่องปรับครม.นั่งควบ“มท.1” แล้วแต่นายกฯ ยันไม่รู้ข่าวพรรคเล็กรับค่าเลี้ยงดูรายเดือน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีภายหลังการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งได้รับคะแนนไว้วางใจสูงสุดในบรรดา 11 รัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย ว่า ก่อนการลงมติ ตนกำชับให้ส.ส.พลังประชารัฐโหวตเท่ากันหมด  แต่ทราบว่ามีคนที่ไม่โหวตตนด้วย ทั้งนี้คะแนนที่ออกมาแตกต่างกันตนไม่ทราบว่าจะต้องปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่

 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่อยากให้ไปดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย(มท.1) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า  ไม่รู้ แล้วแต่นายกฯ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ

เมื่อถามย้ำกว่าการปรับครม.ครั้งนี้มีคนพูดถึงการปูทางไปสู่การเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้สิ


เมื่อถามถึงกรณีข่าวที่พรรคเล็กรับเงินค่าดูแลรายเดือนโดยมีสถานที่รับเงินคือ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไม่รู้ ผมไม่เกี่ยว ส่วนกลุ่ม 16 ตอนนี้ ทราบว่าไม่มีแล้ว”

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับครม. ว่า เรื่องนี้คงต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะตนไม่ทราบ ยังไม่เคยได้ยิน เมื่อถามย้ำว่าสำหรับ 2 ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ยังว่างอยู่ถึงเวลาจำเป็นที่จะต้องตั้งหรือไม่ เนื่องจากจะได้เดินหน้าหาเสียง นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องถามนายกฯ เท่านั้น แต่ 2 ตำแหน่งนั้นก็ว่างมาเป็นปีแล้ว


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีไลน์หลุดและสลิปภาพหลักฐานการโอนเงินจ่ายให้ส.ส.พรรคเล็กหลุดออกมา อย่างนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องหยิบยกขึ้นมาเองหรือต้องมีผู้ร้องให้ตรวจสอบหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ทั้งสองอย่าง  ซึ่งถ้ากกต.ไม่มีช่องทางใดเลยจะหยิบขึ้นมาก็ยาก แต่ถ้าคาหนังคาเขาก็สามารถหยิบขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นทำได้ทั้งสองอย่าง 


เมื่อถามว่าหากมีความผิดจะผิดทั้งผู้ให้และผู้รับเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ผู้ให้ไม่ได้พูดถึงไว้ ยกเว้นที่จะรู้มูลเหตุจูงใจว่าให้ทำไม แต่ผู้รับนั้นเกิน 3,000 บาทก็ไม่ได้อยู่แล้ว 


เมื่อถามว่าหากเหตุผลในการให้มีเจตนาในเรื่องของการดูแลได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ว่าอะไรที่จะพูดกัน จะเป็นการดูแลหรือจะเป็นการทำบุญก็สุดแล้วแต่ เมื่อถามว่าถ้าอ้างว่าเป็นการให้เงินเพื่อสนับสนุนทางการเมืองของพรรคนั้นๆได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่อยากตอบ แต่เขาคงใช้เหตุผลนี้พูดกัน


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีที่กำลังจะเป็นปัญหานี้จะต้องให้กฤษฎีกาเป็นฝ่ายตีความหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สุดท้ายจะต้องไปฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี กฤษฎีกาและสภาก็สามารถตีความได้ แต่ทำให้รู้ขึ้นมาเท่านั้น แต่จะไม่มีคนเชื่อถือ ซึ่งในบางครั้งศาลรัฐธรรมนูญตีความออกมาแล้วก็ยังไม่มีใครเชื่อเลย