ฝ่ายค้านรุมถล่ม2ร่างกฎหมาย ผวาเป็น"นครกัญชา" ประกาศคว่ำวาระแรก

08 มิ.ย. 2565 | 16:22 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มิ.ย. 2565 | 23:50 น.

สภาฯถก2ร่างกฎหมายกัญชากัญชง "สุทิน" เตือนระวังเป็นนครกัญชา ขัดหลักยูเอ็น เปิดช่องนายทุนหม่ำผลประโยชน์เต็มๆ ด้านพรรคประชาชาติ ชี้เป็นสารเสพติดเทียบสุรา ประกาศคว่ำวาระแรก

8 มิ.ย. 65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)กัญชากัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. ... ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะเป็นผู้เสนอ

 

และร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่นางพรรณศิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ และคณะเป็นผู้เสนอ

 

ร่างกฎหมายทั้ง2ฉบับมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้ร่วมเสนอร่างฯ ได้อภิปรายถึงหลักการและเหตุผลของร่างฯฉบับนายอนุทิน และนางพรรณสิริ ได้อภิปรายถึงหลักการและเหตุผล ของร่างฯตนเอง

ทั้งนี้ มีสาระสำคัญคือ การสนับสนุนนำกัญชา กัญชงมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพ การใช้ตามวิถีชุมชน รวมถึงการกำหนดมาตรการกำกับดูแลการผลิต นำเข้า ส่งออก ขายหรือมีไว้ในครอบครองกัญชา กัญชง และการควบคุมการขาย การโฆษณา การบริโภคกัญชา กัญชงเพื่อคุ้มครองสุขภาพของบุคคล

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย

โดยให้มีคณะกรรมการกัญชา กัญชง มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน มีหน้าที่ดูแลเรื่องกัญชาทางการแพทย์ อุตสาหกรรม วิจัย โดยกำหนดให้การปลูกกัญชา เพื่อใช้ในครัวเรือนในการดูแลรักษาสุขภาพตัวเองและครอบครัวที่อาศัยในที่เดียวกัน ให้ปลูกได้ไม่เกินปริมาณที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ต้องมีการจดแจ้ง  ถ้าเป็นเขตกทม. ให้จดแจ้งต่อผู้ว่าฯกทม.


ส่วนต่างจังหวัดให้จดแจ้งต่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ใบจดแจ้งมีอายุ 1ปี หากประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก การขาย หรือการโฆษณา ต้องได้รับใบอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กำหนดให้ใบ อนุญาตมีอายุ 3ปี หากนำเข้า ส่งออก ขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 3แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ขณะเดียวกันกำหนดห้ามขายกัญชา กัญชงแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ยกเว้นได้รับอนุญาตจากแพทย์ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 30,000บาท ทั้งนี้ในบทเฉพาะกาลระบุไว้ว่า ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่ร่างกฎหมายใช้บังคับ การนำเข้ากัญชา กัญชง ทำได้เฉพาะ 1.กรณีศึกษา วิเคราะห์ วิจัย 2.เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือเพื่อประโยชน์ราชการ

ต่อมานายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนเป็นห่วงเส้นแบ่งระหว่างคุณกับโทษอาจไม่ชัดเจน แล้วล้ำมาทางโทษมากกว่า แม้วันนี้จะปลดกัญชาออกจากยาเสพติดแล้ว แต่ถ้าเสพก็ยังติดอยู่ดี ควรนำไปใช้ทางการแพทย์ จะมีประโยชน์ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ยังหลวมมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ควบคุมเข้มมาก

 

นอกจากหลวมแล้วยังกำกวม เหมือนส่งซิกเปิดช่องให้สำหรับคนมีเงินทำธุรกิจแบบหมิ่นเหม่ เราไม่ติดขัดหากทำเพื่อประชาชน แต่ต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนเสี่ยง ตนกลัวว่าจะเป็นนครกัญชา ถึงกฎหมายจะยังไม่ออกมา แต่ชัดเจนว่าขณะนี้เด็กวัยรุ่นก็เสพ ข้าราชการผู้หลักผู้ใหญ่เปิดหน้าเปิดตาเสพ

 

จึงขอฝากว่าหากกฎหมายนี้ผ่าน กรรมาธิการฯควรไปดูกลไกการควบคุมให้ชัด ควรเอาอย่างประเทศอุรุกวัย กับแคนาดา ที่แม้ขนาดคุมเข้มกฎหมาย ก็ยังเอาไม่อยู่ เพราะมันไปทางนันทนาการมากกว่า

 

“มาตรการกฎหมายอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ต้องปลูกฝังไปตั้งแต่ระบบสังคม ครอบครัว ชุมชนต้องเข้มแข็ง ขณะที่ระบบกระบวนการยุติธรรมเรายังอ่อนแอ ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าตำรวจจะกวดขันเราให้ดี เรากล่าวหาตำรวจมาตลอดว่าขายเอง ผมกังวลว่ายาบ้าเรายังเอาไม่อยู่ แล้วมีกัญชามาอีก

 

เราจะนำเข้าไปสู่อะไรไม่รู้ ส่วนที่บอกว่ากัญชาเสรี ให้ความหวังชาวบ้านปลูก5-6ต้น ชาวบ้านก็คิดว่าจะรวย นักธุรกิจก็แห่ลงทุนทำไร่กัญชา แต่มันมีข้อผูกพันสนธิสัญญาระหว่างประเทศของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เขามีกรรมาธิการว่าด้วยยาเสพติด เขียนชัดว่า กัญชาคือ1ใน3ยาเสพติดที่มีประเภทรุนแรง ต้องนำไปใช้ทางการแพทย์ ศึกษา วิจัยเท่านั้น ห้ามนำไปใช้ทางการค้าเชิงธุรกิจเด็ดขาด

 

แต่เราสร้างกระแสว่าจะรวยเพราะกัญชา ต้องดูให้ดี วันนี้สภาฯกำลังจะออกกฎหมายที่ขัดกับข้อผูกพันระหว่างประเทศหรือไม่ จึงมี2ทาง 1.ขัดหลักยูเอ็นทำไม่ได้ 2.ฝืนยูเอ็น เรากำลังทำผิดอะไรอีก เรื่องนี้เสี่ยง ผมไม่สบายหากจะลงมติ ถ้ามันขัดจะทำอย่างไร” นายสุทิน กล่าว

 

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า อีกข้อกังวลสุดท้ายคือ ธุรกิจนี้ถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว คนมีเงินทองวางระบบ วางกับดักไว้หมด เสมือนเอาชาวบ้านบังหน้า คนได้ประโยชน์คือนายทุน เมื่อไปดูเงื่อนไขขออนุญาตปลูก ถ้ามีทุนต่ำกว่า10-20ล้านปลูกเชิงพาณิชย์ไม่ได้

 

แต่ถ้าปลูกในครัวเรือน5-6ต้น จำกัดไว้ยิบมาก ขายได้ไม่เป็นเงิน ขายไม่ได้เป็นเงิน ถึงมีถูกจับติดคุกมาเรื่อย ถ้าจะทำจริงต้องให้ชาวบ้านได้ประโยชน์ แต่ขอย้ำว่าต้องระวังขัดกับหลักยูเอ็น จะซวยเอา ขอให้ตั้งสติ รอบคอบ การให้ความจริงไม่ครบเป็นบาป ตนเห็นด้วยที่จะมาพิจารณา ถ้าจะผ่านกฎหมายนี้ต้องรอบคอบที่สุด

 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กฎหมายฉบับนี้ยังหลวมมาก ยกแต่เรื่องเศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง ถามว่าเอื้อนายทุนหรือไม่ มีการควบคุมการเสพในที่สาธารณะหรือไม่ เด็กและเยาวชนจะเข้าถึงได้เพียงไหน แล้วจะใช้อำนาจใดในการตรวจตรา จะขัดกับประมวลกฎหมายวิอาญาหรือไม่ หรือให้เพียงอำนาจเจ้าหน้าที่บังคับแล้วเข้าไปตรวจ อาจเกิดปัญหาการยัดยาได้

 

ขณะที่สาร THC ที่บริเวณช่อดอกกัญชา ที่ยังขึ้นทะเบียนอยู่ในบัญชียาเสพติด มีความชัดเจนหรือไม่ ตนไม่มีปัญหาหากผ่านกฎหมายฉบับนี้ แต่ถ้าผ่านแล้ว สังคมไทยจะแย่กว่าเดิมหรือไม่ คนจะติดกัญชางอมแงมหรือไม่ ตนขอฝากนายอนุทิน ศึกษาผลกระทบให้ดี อย่าเอาแต่เศรษฐกิจเป็นที่ตั้ง หาเงินเป็นล้านล้านบาทได้ แต่ถ้าสูญเสียสังคมไปกี่สิบล้านล้านบาท เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย
 
ต่อมาเวลา 13.45 น. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า พรรคประชาชาติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เพราะยึดหลักในการพิจารณาว่า ร่างกฎหมายที่จะเข้าสภาฯแต่ละฉบับขัดกฎหมายหรือไม่ ประเทศ และประชาชนได้ประโยชน์หรือไม่

 

เช่นเดียวกับร่างกฎหมายนี้ คณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือว่ากัญชา กัญชง ถือเป็นสารเสพติดเช่นเดียวกับสุรา หากจะนำมาใช้ทางการแพทย์สามารถใช้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น หมายถึงไม่มียาตัวอื่นจะรักษาได้แล้วจึงจะอนุญาต นั่นหมายถึงกัญชาคือฮะรอม ดังนั้น พรรคประชาชาติจึงไม่สามารถรับหลักการได้

 

“รู้สึกเป็นห่วงที่ปลดล็อคกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ประเทศอื่นๆรอบข้างเรายังไม่มีอนุญาตให้เป็นกัญชาเสรี ประเทศเราจะเป็นแหล่งที่มีกัญชามากที่สุดในย่านนี้ ส่งผลให้โครงสร้างทางสังคม สถาบันครอบครัวอ่อนแอลง ขนาดมีมาตรการและกฎหมายเอาผิด เรายังเอาไม่อยู่ ร่างกฎหมายฉบับนี้เน้นด้านเศรษฐกิจ

 

ส่วนมาตรการป้องกันมีเพียงมาตราเดียว คือมาตรา 37 ป้องกันไม่ให้เยาวชนติดยาหรือเข้าถึงกัญชาได้โดยง่าย โดยห้ามขายให้กับบุคคลที่มีอายุไม่ถึง20ปี”

 

ประเทศไทยน่าเป็นห่วงมาก รัฐต้องรักษาคนติดยาเสพติด 2 หมื่นบาท ต่อคน ต่อเดือน ตนมีสถิติว่าขณะนี้มีคนติดกัญชาแล้ว 1.89 ล้านคน ถือว่าสูงมาก และจะมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน เพราะประตูสู่สารเสพติดประเภทกัญชาได้เปิดกว้างแล้ว ใครจะไปดูแลควบคุมว่า ปลูกที่บ้านแล้วจะไม่มีการไปแปลงกับยาแก้ไอเป็นอย่างอื่น

 

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า วานนี้(7มิ.ย.) พรรคเพื่อไทยได้หารือถกเถียงถึงเรื่องนี้กันมากพอสมควร จนท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยไม่อยากเป็นจำเลยของสังคมหาว่าเรากำลังสกัดกั้นกัญชา เราจึงมีมติของพรรคให้รับหลักการในเรื่องนี้ แต่สมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนไม่สบายใจ เพราะไม่เชื่อมั่นว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด

 

สิ่งที่ตนกังวลในช่วงวาระที่2 ที่จะตั้งคณะกรรมาธิการฯ จะป้องกันเยาวชนได้หรือไม่ ที่กำหนดห้ามต่ำกว่าอายุ20ปีใช้กัญชา แล้วถ้ากัญชาหาได้หลังบ้านเหมือนต้นกระเพรา ใครจะการันตีว่าเด็กจะไม่ทดลองกับช่อดอกกัญชา นอกจากนี้ยังจะต้องไปแก้บัญชีพืชเศรษฐกิจอีกโดยเพิ่มกัญชาเข้าไป อาจหนักไปถึงว่าต้องไปประกันราคากัญชาเหมือนประกันราคาข้าวหรือไม่ เนื่องจากเป็นกระแส ก็จะไหลกันมาปลูก โดยบางครั้งขาดความรู้