นายกฯชี้แนวโน้มเศรษฐกิจดี ส่งออก-นักท่องเที่ยวต่างชาติ ปรับตัวเพิ่ม

03 พ.ค. 2565 | 16:00 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2565 | 23:26 น.

นายกฯ ระบุ มูลค่าการส่งออกสินค้า จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่ ครม.เห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 13

พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม​ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี​ โดยระบุว่า ได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งมีการแถลงสภาวะทางเศรษฐกิจในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกสินค้า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี

 

ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค เป็นต้นมา มีเที่ยวบินเพิ่ม และมีนักท่องเที่ยววันละ 10,000 คน​ และจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด​-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน  ทำให้ลดการประมาณการเศรษฐกิจ อยู่ที่ร้อยละ 3.5 จากเดิมคาดการณ์ไว้ร้อยละ 4.0

พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า ​ วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ 3 มาตรการเร่งด่วน เพื่อป้องกันและลดผลกระทบอุทกภัย แผนการจัดการพื้นที่ลุ่มต่ำหรือแก้มลิง เพื่อรองรับน้ำฝน การเพิ่มพื้นที่รับน้ำ ระบายน้ำ แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่องประตูน้ำ ที่ชำรุด การกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำหรือคูคลอง​ ทุกอย่างต้องมีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 พ.ศ. 2566 -​ 2570 จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ออกแบบแผนตามหลักคิด 4 ประการ เศรษฐกิจพอเพียง ความสามารถที่จะล้มและลุกให้ไว และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ เศรษฐกิจสีเขียว

 

โดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 มีอยู่ 5 ประการ คือการปรับโครงสร้างการผลิต สู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่ การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม การเปลี่ยนผ่านผลผลิตและการบริโภคไปสู่ความยั่งยืน

 

การเสริมสร้างความสามารถของไทยในการรับมือความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกยุคใหม่ รวมถึงมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 300,000 บาท