สกลธี ลั่น“กล้ารื้องบฯกทม.” ชูนโยบายดูแล 3 วัย “เด็ก ทำงาน สูงอายุ”

09 เม.ย. 2565 | 17:52 น.
อัปเดตล่าสุด :10 เม.ย. 2565 | 02:09 น.

“สกลธี ภัทธิยกุล” ลั่น “กล้ารื้องบฯ-ปรับวิธีหารายได้กทม.” ชูนโยบายดูแลคน 3 วัย “เด็ก ทำงาน สูงอายุ” ย้ำมีประสบการณ์ในกทม.มาแล้ว 15 ปี

วันที่ 9 เมษายน 2565 เวลา 17.00 น. ที่ลานพารากอนพาร์ค เนชั่นกรุ๊ป ร่วมกับ นักศึกษาหลักสูตรมหานครรุ่น 9 จัด เวทีดีเบทเลือกตั้งผู้ว่ากทม. “เปิดฉาก.. ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. 65” “ โดยมี 6 ผู้สมัครลงชิงผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เข้าร่วมเวที 

 

นายสกลธี ภัททิยกุล  ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ หมายเลข 3 หนึ่งในผู้ร่วมเวที มาพร้อมกับสโลแกน “กรุงเทพดีกว่านี้ได้” โดยย้ำว่าการเป็นผู้ว่ากทม. ต้องมีประสบการณ์ในการทำงาน รู้จริง เคยทำ ผ่านการฝึกฝน และตนอยู่อยู่ในแวดวงการเมืองกทม.มา 15 ปี ทั้งส.ส. และรองผู้ว่ากทม.อีก 4 ปี  ซึ่งทำให้เข้าใจอดีตและมองเห็นอนาคต ถึงจะสร้างกรุงเทพดีกว่านี้ได้ 

 

พร้อมกับเล่าว่า จากประสบการณ์รองผู้ว่ากทม.มา 4 ปี เห็นปัญหาและแนวทางต่อในอนาคต มีคนถามว่าทำไมไม่ทีช่วงนั้นที่เป็นรองผู้ว่าฯ ต้องเข้าใจว่าเป็นรองผู้ว่า หลายอย่างที่รับเสียงสะท้อน บางครั้งไมได้เป็นอำนาจหน้าที่ที่กำกับดูแล จึงไม่สามารถผลักดันได้เต็มที่ จึงเป็นสาเหตุการสมัครผู้ว่าครั้งนี้ 

นายสกลธี ภัททิยกุล  ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ หมายเลข 3

จากนั้น นายสกลธี ได้บอกถึงนโยบายดูแลคนกทม. ตั้งแต่เกิดยันแก่ เด็ก ทำงาน และสูงวัย  

 

นโยบายสำหรับเด็ก 

 

เริ่มจากการดูแลศูนย์เด็กก่อนวัยเรียน ที่สภาพศูนย์ไม่ตอบโจทย์ แต่บางที่เป็นพื้นที่ของเอกชนที่งบ ลงไปไม่ได้

 

ระบบการศึกษาต้องทำให้ช่องทางของโรงเรียนสังกัดกทม. 400 กว่าโรงเรียน ทำให้คุณภาพใกล้เคียงกัน ต้องใส่งบประมาณ เพิ่มอุปกรณ์การเรียน โควิดทำให้เด็กถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แม้มีเรียนออนไลน์ แต่เด็กไม่มีไอแพด มือถือ 

 

“ดังนั้นต้องกล้าเสี่ยงซื้ออุปกรณ์ เพื่อคุณภาพการศึกษาอย่างเท่าเทียม โดยมีความโปร่งใสในการดำเนินการ”

นายสกลธี ภัททิยกุล  ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ หมายเลข 3

นโยบายดูแลคนวัยทำงาน

 

สมัยนี้ทำงานเป็นอิสระ ไม่สังกัดที่ไหน ต้องหาพื้นที่ในการปล่อยของและเริ่มต้นชีวิตการทำงาน อาทิ ทำโคเวิร์คกิ้งเสปช

 

การเดินทางที่นิยมใช้ขนส่งสาธารณะที่ต้องตอบโจทย์ ต้องเชื่อมต่อระบบ “ล้อ ราง เรือ” ให้มากที่สุด มีรถบัสอีวีที่ ขสมก.เขาไม่วิ่ง เช่น ถนนประดิษฐมนูธรรม ที่มีรถเมล์สายเดียว เพื่อเกี่ยวคนเข้าระบบรางให้มากที่สุด และระบบเรือ ต้องรวมผู้โดยสารจากคลองสายหลักเข้าสู่ระบบรางและล้อ ให้ไร้รอยต่อราคาต้องจับต้องได้

 

เพิ่มศักยภาพพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ 30 กว่าแห่ง เช่น บึงหนองบอน ทำให้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำที่ใหญ่ในที่สุดในกทม.

 

ส่วนสวนขนาดเล็กพื้นรกร้างว่างเปล่าซึ่งเป็นของเอกชนต้องให้แรงจูงใจกับเขา และเคยทดลองมาแล้วที่เขตลาดพร้าว 14 ไร่ ซึ่งมีการบุกรุก เราต้องทำแบบนี้อีก 50 เขต  รวมทั้งต้องส่งเสริมศิลปะชุมชน จัดกิจกรรมที่ให้ชุมชนคึกคัก

นายสกลธี ภัททิยกุล  ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ หมายเลข 3

นโยบายดูแลคนสูงอายุ

 

มีนโยบายเสริมอาชีพ สร้างรายได้ สาธารณสุขเข้าถึงบ้าน ทำสมาร์ทคลีนิก เทเลเมดิซีน และมีเทคโนโลยีสุขภาพ

 

"แต่การจะเปลี่ยนต้องกล้า จัดสรรงบประมาณให้ทั่วถึง ไม่กระจุกส่วนกลาง กฎหมายล้าหลังเป็นอุปสรรคการพัฒนาต้องแก้ไข รวมทั้งต้องปรับวิธีหารายได้เข้ากทม. ซึ่งต้อง “ทำเร็ว ทำเลย ทำทันธี”นายสกลธี กล่าวทิ้งท้าย


 

จากนั้นเป็นรอบถามตอบโดยสุ่มคำถาม ซึ่งนายสกลธี ได้รับคำถามว่า “การใช้รถอีวีในรถสาธารณะแก้ภาวะอากาศ โลกร้อน ท่านจะสนับสนุนหรือมีนโยบายอย่างไร"

 

นายสกลธี กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่า นโยบาย ล้อ ราง เรือ เป็นขนส่งสาธารณะให้ใช้รถส่วนตัวน้อยลง ทำให้ระบบการเชื่อมต่อง่ายที่สุด และราคาเข้าถึงได้ 

 

“รถขยะ รถเมล์ เรือ ในอนาคตกทม.จะเป็นอีวี หลังจากวันที่ได้เป็นผู้ว่ากทม.วันแรกเราจะเช่ารถอีวีทั้งหมด”

สกลธี ลั่น“กล้ารื้องบฯกทม.” ชูนโยบายดูแล 3 วัย “เด็ก ทำงาน สูงอายุ”

จากนั้นนายสกลธี กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงเป็นรองผู้ว่ากทมฯ เคยทำเรือคลองผดุงกรุงเกษม เรือคลองแสนแสบ ใช้เป็นเรือไฟฟ้าอีวีทั้งสิ้น เพราะมีการร้องเรียนจากประชาชนในคลองต่างๆในเรื่องของเสียง มลภาวะ กทม.สามารถเป็นที่ริเริ่มได้ 

 

รวมถึงรถบัส ที่ขสมก.ไม่ได้เดินรถ มีความจำเป็นที่กทม.จะช่วยได้ในจุดที่ไม่มีรถสาธารณะ เพื่อนำผู้โดยสารมาเข้าสู่ระบบ  ซึ่งก่อนหน้านี้มีโครงการนำร่องหลายโครงการ 

 

“หมดยุคแล้วที่ใช้รถสันดาป เป็นการเพิ่มฝุ่น PM2.5 ด้วย เพราะของเก่าจะหมดสภาพ ทั้งนี้ส่วนของงบฯกทม.มี 8 หมื่นล้านบาท 40% เป็นเงินเดือน ที่เหลือเป็นงบผูกพันและเหลือใช้ประมาณ 2 หมื่นกว่าล้าน ดังนั้นต้องรู้จักบริหารงบประมาณ และต้องหาเพิ่มเอง จะรอเงินอุดหนุนรัฐบาลอย่างเดียวไม่พอ”
 

"เลือกตั้งผู้ว่ากทม.รอบนี้ มีผู้สมัครหลายท่านที่น่าสนใจ เป็นข้อดีที่ได้เลือก ดู ตัดสินใจ ไปทำงานแทนท่าน สำหรับผมอายุไม่มาก แต่ประสบการณ์กทม.ทั้งส.ส. และ รองผู้ว่ากทมฯ 4 ปี ปัญหาหลายอย่างที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำ ถ้าเห็นแนวเดียวกันกับผมอย่าลืมเลือกสกลธีวันที่ 22 พ.ค.นี้ครับ"