“หมอระวี”ร้องศาลรธน.บัตรเลือกตั้ง 2 ใบขัดรัฐธรรมนูญ

08 เม.ย. 2565 | 12:30 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2565 | 19:37 น.

“หมอระวี” ร้องศาลรธน.บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขัดรัฐธรรมนูญ 2560 มั่นใจปฎิบัติการ “แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์” จะประสบความสำเร็จ

ที่ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ (8 เม.ย.65) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ พร้อมด้วยสมาชิกพรรค ได้เข้ายื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พิจารณาเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ  


โดยเอกสารที่นำมายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวันนี้ ประกอบด้วยคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 9 ชุด  รวมต้นฉบับอีก 1 ชุด รวมเป็น 10 ชุด และเอกสารที่ยื่นให้กับผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และเอกสารที่ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัย ก่อนจะส่งกลับมาให้เมื่อวันที่ 31 มีนาคม   

รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง และเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะเป็นหลักฐานบ่งชี้  ว่าในร่างกฎหมายลูกที่แก้เป็นไปในทิศทางของพรรคร่วมรัฐบาล หรือ พรรคฝ่ายค้านเสนอ  ล้วนแล้วแต่เป็นหลักการที่ทำให้เจตนารมณ์ ทั้ง 3 ข้อของรัฐธรรมนูญ 2560 ถูกละเมิดไป  

 

ส่วนหนังสือที่แสดงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2560  ตนได้ถ่ายเอกสารเฉพาะจุดที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว และหลักฐานทุกชิ้นตนได้เซ็นชื่อกำกับไว้ทุกใบ


 

นพ.ระวี ยังกล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เบื้องต้นก็จะต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าจะรับวินิจฉัยหรือไม่  ซึ่งจะรับหรือไม่รับขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มาตรา 27 วรรค 1  ของรัฐธรรมนูญ 2560  กับมาตรา 213  ที่ระบุว่า กลุ่มส.ส.พรรคเล็กถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพจากรัฐธรรมนูญ 2 ใบ  หากศาลเห็นชอบกับคำร้องดังกล่าว และมองว่าฝ่ายพรรคเล็กเป็นผู้เสียหาย และเป็นผู้ถูกละเมิดจริง  ศาลก็จะรับวินิจฉัย แต่หากศาลวินิจฉัยว่าไม่ใช่ ตนและบรรดาพรรคเล็กก็จะจบเรื่องดังกล่าวทันที 

                                     นพ.ระวี มาศฉมาดล

"ผมมั่นใจสูงว่าปฎิบัติการณ์แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์จะประสบความสำเร็จ  เพราะได้มีการพูดคุย  ปรึกษากับผู้ที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายระดับประเทศมาหลายท่าน  ได้แนะนำในการร่างคำร้อง  ซึ่งก็มีเหตุผล  มีน้ำหนักระดับหนี่ง   รัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบ ขัดและแย้งต่อเจตนารมณ์หลัก 3 ประการของรัฐธรรมนูญ 2560  คือ เจตนารมณ์ ส.ส.พึงมี  คะแนนเสียงไม่ตกน้ำ  และระบบจัดสรรปันส่วนผสม  และขัดและแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 หลายมาตรา"  นพ.ระวี กล่าว