ดินเนอร์พรรคร่วม ถกวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน หวั่นราคาปุ๋ย-อาหารสัตว์แพง

วันที่ 9 มี.ค.65 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ช่วงค่ำของวันที่ 8 มี.ค.ผ่านมา ว่า ท่านนายกฯ ได้เชิญไปทานข้าวเย็นกัน เพื่อติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลกระทบที่ประเทศไทยจะได้รับ

ซึ่งถือเป็นวงที่ได้มีการพูดคุยในคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว ดังนั้น ก็เป็นอีกวงหนึ่งที่ไม่เป็นทางการ ตนมองว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้คุยกันในเชิงลึกมากขึ้น และในบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยถึงเรื่องการยุบสภา หรือการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องยุบสภา แต่พูดคุยถึงการทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่เชื่อว่าทุกพรรคทราบดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ ตราบใดที่เรายังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เรารู้หน้าที่ดีเหมือนที่ตนย้ำเสมอว่า พรรคร่วมรัฐบาลในระบบรัฐสภาเรามีหน้าที่อะไร เราทำหน้าที่ของเราไม่ต้องห่วงอย่างเต็มที่ 

เมื่อถามย้ำว่า การพบกันเมื่อค่ำที่ผ่านมาจะลบภาพการยุบสภาไปเลยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่าเมื่อคืนไม่ได้คุยกันเรื่องยุบสภา จะยุบหรือไม่นั้นตนคิดว่าเป็นเรื่องของอนาคต คงไม่มีใครตอบได้ล่วงหน้า ท่านนายกฯก็ไม่ได้พูดว่าท่านเตรียมจะยุบสภา ท่านไม่ได้พูดประเด็นนี้

"เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องทำงานร่วมกันให้ดีที่สุด และต้องประคองรัฐบาลให้เดินหน้าต่อไป เพราะมันหมายถึงถ้ารัฐบาลในระบบรัฐสภามีเสถียรภาพ ประโยชน์สูงสุดจะเกิดกับประชาชน ก็จะทำให้การแก้ปัญหามีความเป็นเอกภาพและมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผมคิดว่าอันนั้นเป็นภารกิจของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่จะต้องทำ" 
 

ส่วนการรับมือสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทุกกระทรวง ไปศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และที่ชัดเจนที่มีผลกระทบแล้ว คือราคาน้ำมัน ที่จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนการผลิตสินค้า แต่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติปรับภาษีสำหรับน้ำมันที่จะนำไปใช้ในการผลิตไฟฟ้า เพื่อช่วยตรึงราคาต้นทุนส่วนหนึ่งบ้าง

 
นายจุรินทร์ กล่าวว่า รับว่าบางปัญหานั้น ลำพังเพียงกระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด เพราะจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกับกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงกลาโหม เป็นต้น

ยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ตั้งวอร์รูม เพื่อติดตามสถานการณ์ทุกวัน โดยมีปลัดกระทรวงเป็นประธาน ซึ่งปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ยังเป็นที่น่ากังวล เพราะยังไม่ทราบว่า สถานการณ์จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่กระทรวงฯ ก็ได้ออกประกาศตรึงราคาสินค้าจำเป็น 18 หมว รวมถึงอาหารสด ที่ห้ามขึ้นราคาโดยไม่จำเป็น ซึ่งการดำเนินการกล่าว ก็ประสบความสำเร็จ เพราะพาณิชย์จังหวัดหลายจังหวัด ได้รายงานสถานการณ์ราคาอาหาร และสินค้าในพื้นที่ได้ปรับตัวลง

แต่หลังจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็ยังต้องติดตามต่อ รวมถึงยังจะมีปัญหาอื่นๆ ที่ตามมา เช่น ราคาปุ๋ย ที่ประเทศไทยต้องนำเข้าจากรัสเซีย เมื่อรัสเซีย ไม่อนุญาตส่งออกทั่วโลก ก็จะกระทบต่อเกษตรกรมากขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งได้สั่งการให้วอร์รูมหารือร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ เพื่อบูรณาการการช่วยเหลือแล้ว

รวมถึงอาหารสัตว์บางชนิด ที่ไทยต้องนำเข้าจากยูเครน ก็ได้สั่งการไปแล้วเช่นเดียวกัน เพื่อจะคลี่คลายปัญหาดังกล่าวภายในประเทศอย่างไร เพื่อให้กระทบต่อปศุสัตว์น้อยที่สุด และยังอาจมีปัญหาการขนส่ง ที่อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนเส้นทาง และอาจกระทบต่อต้นทุน จึงจะต้องแก้ไขไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ ยังห้ามขึ้นราคาโดยไม่จำเป็นทุกชนิด และหวังว่า จะช่วยบรรเทาสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศได้มากที่สุด