“3 ป.”ผนึกขุมกำลัง หวังรัฐบาลอยู่ยาวครบเทอม

สถานการณ์ทางการเมืองที่ว่าด้วยเสถียรภาพของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงนี้จะไม่มีการ “ทดสอบ” อะไรเกิดขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ “สภา” ปิดสมัยประชุมไป 3 เดือน เรียกว่า “ปิดเทอม 3 เดือน” ว่าอย่างนั้นเถอะ

 

แต่จะไปเปิดเทอมอีกที 22 พ.ค.2565 ซึ่งการเปิดสภาสมัยหน้า จะถือเป็นช่วง “อันตราย” สำหรับ “รัฐบาลลุงตู่” ว่าจะ “จอด” หรือ “ไปต่อ”
 

ระยะเวลา 15 วันที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกันในวงในของพี่น้อง “3 ป.”  และพรรคพลังประชารัฐ เป็นการสะท้อนภาพว่าพี่น้อง "อ.เล็ก" กับ "อ.ใหญ่" มีการพูดคุยหารือบางอย่างเกี่ยวกับสถานะของรัฐบาล จึงเป็นที่มาของข่าวลือว่า "เขารักกันแน่แล้ว"

ถ้ามีการแตกแยกไม่กลมเกลียว ไม่ว่าใครก็จะเดินต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงกลับมาจุดเดิม แล้วจะทำอย่างไรให้เดินต่อไปได้ หัวใจสำคัญคือทั้ง “3 ป.” ต้องกลับมากลมเกลียว จัดสรรโครงสร้างอำนาจใหม่เพื่อให้อยู่ยาวที่สุด

ปรากฏการณ์บรรยากาศที่มีความเครียดคลายลงในกระบวนการทำงานร่วมกันในรัฐบาล ในการประชุมครม. เมื่อวันอังคารที่ 1 มี.ค.2565 ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ผ่อนคลายมาก นำหนังสือ 2 เล่มไปแจก ครม. เล่มแรก Blockchain เปลี่ยนโลก เล่มที่ 2 Crypto currency 101 plus เป็นการแสดงถึงความผ่อนคลาย

 

นายกฯถกรมต.พรรคร่วม

 

ขณะที่หลังการประชุม ครม. ก็ได้เชิญบรรดาคนที่เกี่ยวพันกับพรรคร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีที่ร่วมรบร่วมสู้มาพูดคุยกัน มีการพูดคุยกันประมาณ 30 นาที 

คนที่ร่วมวงพูดคุยก็ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค ปชป. 

 

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส รักษาการรองหัวหน้าพรรค พปชร. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รักษาการผู้อำนวยการพรรค พปชร. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม พรรคพปชร.

 

วาระที่เปิดเผยออกมาสู่สาธารณะ คือ “นายกรัฐมนตรี” ห่วงใยเรื่องความแตกแยกจากการโหวตเลือกประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) พิจารณาร่าวพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. และ ร่างพ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่แปรเปลี่ยนจาก ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งเป็นตัวเต็งที่ทางวิปรัฐบาลคิดเสนอ แต่ทางฝ่ายค้านคัดค้าน เห็นว่า ไม่เหมาะ จึงเสนอ สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกลัวจะเกิดรอยร้าวขึ้นในรัฐบาล 

มีรายงานว่า  “บิ๊กตู่” ได้ซักถามไปว่า เป็นอย่างไรบ้าง เกิดอะไรขึ้น และทำไมนายไพบูลย์ นิติตะวัน  ถึงไม่ได้เป็นประธาน กมธ. เป็นเพราะอะไร แต่เป็น นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็นประธานแทน

พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ไม่ขอยุ่งเรื่องนี้ ให้เป็นเรื่องของสภา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้า พปชร. ไปจัดการ แต่คราวหลังจะต้องพูดคุยกันให้ใกล้ชิดมากกว่านี้

 

พล.อ.ประวิตร บอกว่า มันเกิดอะไรขึ้นตอนโหวตต้องไปหาสาเหตุของเรื่องนี้ วิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน อาจจะพูดคุยกันไม่เข้าใจ

 

“เป็นเรื่องของสภาฯ ซึ่งเขาอยากได้คนที่เป็นรัฐมนตรี และยืนยันไม่ได้ผิดพลาดเรื่องจำนวนเสียง” พล.อ.ประวิตร ระบุ

                                                                                

 

“3 ป.”กอดคอคุยกัน 
  

การพยายามประคับประคองให้ “รัฐบาลลุงตู่” ได้อยู่ยาวเห็นได้จาก

 

-3 ก.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ เคลียร์ใจกับ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ถึงกรณีมีคนจะโหวตคว่ำนายกฯ

-13 ก.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ เดินเข้าไปคุยกับ พล.อ.ประวิตร อย่างชื่นมื่น หลังปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้น รมต.

-8 ธ.ค.2564 “3 ป.” โชว์บึ๊ก กินข้าวเที่ยงร่วมกัน ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ

-26-27 ก.พ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ คุยกับ พล.อ.ประวิตร

-1 มี.ค.2565 ประชุมครม.รอบนี้ 3 ป. คุยกันใกล้ชิด

หลังจากนั้นเกิดปรากฏการณ์ “ลุงป้อม” ลุยการเมืองเต็มที่ 100% ทั้งเรื่อง น้ำท่วม , ตรึงกำลังส.ส.ใต้ + 3 จังหวัดชายแดน, ลงพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนในนาม พรรคพลังประชารัฐ

หลายคนบอกว่าหลังจากนี้เป็นจุดตายพรรคพลังประชารัฐ กับ “ลุงตู่” อาจต้องแยกทางกัน แต่ในความเป็นจริงล่าสุดออกมาบอกว่า จากการพูดคุยของ 3 พี่น้อง พลังประชารัฐ คือ หมุดหมายที่ต้องรักษาไว้ให้แน่นที่สุด การลงเสาเข็มพรรคใหม่ไม่ดีเท่าบ้านหลังเดิม

“ลุงตู่”เลือกอยู่พปชร.

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ออกมาประกาศลั่นว่าจะไม่รับตำแหน่ง รมต. และไม่ใส่ใจกับตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ ค่อยว่ากันในรัฐบาลชุดหน้า จะเดินหน้าต่อสู้เลือกตั้ง พรรคต้องเสนอและสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคตัวเอง ส่วนจะเป็นใครยังไม่ทราบ

ถ้าหากวางแผนที่จะอยู่ยาว ในระหว่างทางจำเป็นจะต้องปรับ ครม. ขณะนี้สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดที่สุดนอกเหนือจาก “3 ป.” พูดคุยกันมากขึ้น “นายกฯ” เคลื่อนไหวพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น เพื่อเป็นการกระชับ ประสาน พูดคุยแบบเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้น 

ไปดูท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค “ภูมิใจไทย” เป็นพรรคพลังดูดคนลงส.ส. , ดูดส.ส.มาร่วมชายคา, จัดคนลง ส.ส. ขณะที่ “ประชาธิปัตย์” ก็เตรียมคนลงส.ส. โดยไม่ประกาศตัวในแต่ละพื้นที่ ส่วน “ชาติไทยพัฒนา” จัดพรรครองรับคนย้ายมาร่วมชายคา

ปฏิกิริยาของ “พรรคร่วมรัฐบาล” ตอนนี้ได้รับสัญญาณเดียวกัน "ช่วยกันต่อนะ" ทำให้พรรคร่วมหันมาพูดคุยในท่วงทำนองเดียวกัน "ลุงตู่อยู่ยาว"

ขณะนี้พรรคใหม่อยู่ระหว่างการระดมคน และเซ็ตแนวทางอุดมการณ์ แต่อยู่ในช่วงลำบาก ประเด็นอยู่ที่ท่าทีของ “ลุงตู่” ว่าจะเอาอย่างไร เพราะถ้าหากลุงตู่คุยกับ “3 ป.” รู้เรื่อง แน่นอนว่า “ลุงตู่” เลือกที่จะเข้าสู่พลังประชารัฐ ดีกว่าสร้างพรรคใหม่

“3 ป.”หันมากลมเกลียว

 

ปรากฏการณ์อีกอย่างหนึ่งที่พยายามประคองให้ “รัฐบาลลุงตู่” ไปต่อ เห็นได้จาก “3 ป.” หันมากลมเกลียวกัน นั่นคือ  พล.อ.ประยุทธ์ หันมาใช้บริการพรรค พปชร. , พรรคร่วมรัฐบาลเหนียวแน่น ขณะที่ฝ่ายค้านถอนคันเร่งศึกซักฟอก แลกกับกติกาสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ และอาจมีการปรับครม. จัดสรรอำนาจใหม่, วางแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ชัดเจน

เดิมพันของ “รัฐบาลลุงตู่” หลังจากนี้ไปจะอยู่ที่การผนึกกำลังกันระหว่าง “พรรครวมรัฐบาล และ “พลังประชารัฐ” ของ 3 ป.