ชนคนตายต้องติดคุก “อนุพงษ์” ยก“คดีหมอกระต่าย”เป็นตัวอย่าง

27 ม.ค. 2565 | 11:36 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ม.ค. 2565 | 20:30 น.

“อนุพงษ์”ประกาศกลางสภา ยก“คดีหมอกระต่าย” ชนคนตายต้องติดคุก ย้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้มีอำนาจต้องไม่ใช่อภิสิทธิ์ใดๆ

วันที่ 27 ม.ค.2565 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของนางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.กทม​. พรรคเพื่อไทย ต่อกรณีการเสียชีวิตของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ ระหว่างเดินทางข้ามถนนตรงทางม้าลาย ถนนพญาไท ด้วยเหตุบิ๊กไบค์ชน ว่า เชื่อว่าทุกคนเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ไม่สามารถหาสิ่งทดแทนหรือบรรเทาได้ ดังนั้นต้องถอดบทเรียน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องไม่ใช้อภิสิทธิ์ใดๆ ถ้ามีการทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากล คนที่มีอำนาจหน้าที่ต้องไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น ตนอยากให้สังคมทราบว่าต้องทำตามกฎหมาย แม้จะบรรเทาเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่คนที่ทำต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

  "รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ไขปัญหา แก้กฎหมายและอยากทำให้ดีกว่านี้ เช่น ผู้ที่ขับรถเร็ว, ดื่มสุราแล้วขับรถ หากมีผู้บาดเจ็บ คนเสียชีวิต โทษคือติดคุก แต่การทำคดีนั้น คณะกรรมการปลอดภัยทางถนนไม่เห็นด้วยว่ากระบวนการทำคดีนั้นไม่ติดคุก ดังนั้นต้องทำให้ชัดเพื่อให้การบังคับกฎหมายใช้ ให้ได้ผลและคนตระหนัก อย่างข้าราชการบางส่วนต้องไม่ประมาท เพราะถ้าติดคุกต้องจบ ครอบครัวจบ กฎหมายแรงแต่อยู่ที่ทำคดีอย่างไรให้ติดคุกเป็นตัวอย่าง” พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจง
 

     พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงด้วยว่า คณะกรรมการปลอดภัยทางถนน พยายามหาทางแก้ไข และจากการประเมินการใช้ถนนของประเทศไทย พบว่ามาตรการทางกฎหมายไม่สามารถทำให้คนขับรถดีมีวินัยได้ ดังนั้นคณะกรรมการพยายามแก้ไข เช่น แก้ไขการสอบใบขับขี่ ให้มีวินัย วัฒนธรรมการใช้รถ ไม่ใช่แค่เดินหน้า หรือถอยหลังได้เท่านั้น นอกจากนั้นประเด็นที่ทำคดีเป็นประมาท ทั้งที่การขับรถเร็ว ขับรถดื่มสุรา ถือว่าจงใจ ต้องติดคุก เป็นข้าราชการ เป็นใครต้องติดคุก แต่การทำคดีเป็นแค่การประมาทเลินเล่อ

             

“คณะกรรมการทั้งหมด พยายามหาทางแก้ แก้กฎหมายแม้ไม่ได้อย่างใจคณะกรรมการ แต่พยายามทำ หวังว่าโอกาสครั้งนี้ ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ผลักดันแก้กฎหมายและมีมาตรการให้ประเทศไทยปลอดภัย” พล.อ.อนุพงษ์​ ชี้แจง