ถก ศบค.ชุดใหญ่ 13 ธ.ค. สกัดโอมิครอน ยันไม่ล็อกดาวน์ ไม่ปิดประเทศ

08 ธ.ค. 2564 | 11:27 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2564 | 18:35 น.

โฆษกรัฐบาล เผย 13ธ.ค.นี้ ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ สกัด "โอมิครอน" ย้ำ นายกฯไม่มีนโยบายปิดประเทศหรือล็อกดาวน์ มั่นใจไทยรับมือได้ทุกสายพันธุ์ เตรียมหารือเพิ่มเติมในที่ประชุม ศบค. 13 ธ.ค.นี้

วันนี้ 8 ธันวาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ไทย  ปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันต่อเนื่อง

วันนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 3,618 ราย ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ในขณะ 5 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 37,939,641 ราย อินเดีย จำนวน 32,474,773 ราย บราซิล จำนวน 20,583,994 ราย ฝรั่งเศส  จำนวน 6,708,163 ราย และรัสเซีย จำนวน 6,672,373 ราย

 

สำหรับภาพรวมยอดฉีดวัคซีน ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2564  ยอดฉีดทั่วประเทศ สะสม 95,381,559 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 49,201,590 ราย สัดส่วนต่อประชากรร้อยละ 74.33   เข็มที่ 2 จำนวน42,434,607 ราย และ เข็มที่ 3 จำนวน 3,723,724 ราย 

พร้อมกันนี้  นายกรัฐมนตรีเชิญชวนสมาชิกในครอบครัวช่วยกันสร้างแรงจูงใจเชิญชวนสมาชิกที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัค รีบเข้ารับการฉีดวัคซีน ทุกภาคส่วน ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบกิจการ ประชาชน ร่วมปฏิบัติมาตรการ  VUCA ได้แก่  V - Vaccine (ฉีดวัคซีนให้ครบ) U - Universal Prevention (ป้องกันตัวเองตลอดเวลา) C - COVID Free Setting (ผู้ให้บริการพร้อมตรวจ ATK ทุกสัปดาห์) A - ATK (Antigen Test Kit) (พร้อมตรวจเสมอ เมื่อใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ)

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฝากสื่อสารถึงพี่น้องประชาชนว่า อยากเห็นคนไทยมีความสุขในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และไม่ต้องการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งกระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชนอีก   อย่างไรก็ตามคนไทยเคยผ่านวิกฤตโควิดจากสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่น่ากลัวมาแล้ว

 

ขอเพียงทุกคนยึดมั่นการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 แบบครอบจักรวาล ยึดหลักอนามัยส่วนบุคคล สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง เพราะการดูแลป้องกันตนเองปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ ถึงแม้จะมีพบโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในไทยแล้ว ระบบสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมและเตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว ซึ่งจะมีการหารือเพิ่มเติม ในที่ประชุม ศบค. วันที่ 13 ธ.ค. นี้