วันที่ 2 ก.ย. 2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่3 โดยนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.พลังปวงชนไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว สาธารณสุข ว่า ตนมีความสงสัยต่อการจัดซื้อชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ATK จำนวน8.5 ล้านชุด โดยพบว่าองค์การเภสัชกรรมได้ลงนามกับบริษัทเวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งที่บริษัทที่ชนะประมูล คือบริษัทออสท์แลนด์ แคปปิตอล
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตความสัมพันธ์ของบริษัทที่เซ็นสัญญาว่ามีผู้ถือหุ้นรายเดียวกับบริษัทแห่งหนึ่งที่พบประวัติการครอบครองเครื่องบิน HS-WTH ซึ่งขณะนี้เครื่องบินลำดังกล่าวนั้นมีผู้ครอบครองคือรมว.สาธารณสุข ดังนั้นการมีข้อสั่งการให้ ลดสเปคATK ที่ไม่ต้องผ่านการรับรองจากองค์กรอนามัยโลก ผ่านแค่การรับรองจากอย. เพื่อให้บริษัทดังกล่าวผ่านการประมูล ในราคา 65 บาท ทั้งที่ราคากลางตั้งไว้ 120 บาท ซึ่งการลดสเปคดังกล่าวทำให้ต้องลดค่าความแม่นยำ เหลือ 95% จากที่กำหนดค่าความแม่นยำ 98% ตามมาตรฐานขององค์กรอนามัยโลก
-
นายนิคม ยังอภิปรายถึงการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลว่า เมื่อมีการระบาด ก็ต้องมีการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ทัน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่มีการวางแผนรอบคอบ ชักช้า ทำให้ขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถนำวัคซีนมีคุณภาพ มาฉีดให้ประชาชน ได้ทันเวลา ท่านปล่อยให้ประชาชนอยู่ตามยถากรรม มีการถ่วงเวลาการจัดซื้อวัคซีน เป็นความผิดพลาดจงใจปฏิบัติหน้าที่ อย่างชัดเจน ผมทราบดีท่านมีคำตอบ ว่า ทำไมท่านถึงกีดกันการนำเข้าวัคซีนทางเลือกเข้ามาในประเทศ จึงเป็นข้อสงสัยว่า มีส่วนได้เสียกันหรือไม่ มีเงินทอนหรือไม่ ถ้าจะตอบว่าไม่มี ไม่มีอย่างไรต้องตอบให้ชัด