ศาลปกครองสูงสุด สั่ง! จำคุก-ปรับ "ศรีสุวรรณ" ละเมิดอำนาจศาล

21 ส.ค. 2560 | 17:48 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2560 | 00:48 น.
837
ศาลปกครองสูงสุด สั่งจำคุก 14 เดือน ปรับ 7 แสน "ศรีสุวรรณ" ฐานละเมิดอำนาจศาล หลังบรรยายคำฟ้องยื่นอุทธรณ์คดีชาวบ้านฟ้อง ทอท.เสียดสีหมิ่นศาลชั้นต้น แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี เจ้าตัวขอบริจาคเงินช่วยชำระค่าปรับ ผ่านไลน์ และเฟสบุ๊ก

 

ศรีสุวรรณ วันนี้ (21ส.ค.) ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำสั่งคดีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ละเมิดอำนาจศาลจากกรณีเป็นผู้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมลภาวะทางเสียงของเครื่องบิน อันเนื่องจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ยื่นฟ้องบริษัทท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) กับพวกโดยมีการเขียนบรรยายคำฟ้องในการยื่นอุทธรณ์กรณีที่ ศาลปกครองกลางยกคำฟ้องในคดีดังกล่าว รวม 14 คดี โดยศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า ถ้อยคำในคำอุทธรณ์ทั้ง 14 คดี มีลักษณะเสียดสีการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ไม่ใช่การวิจารณ์การพิจารณาหรือการพิพากษาคดีของศาลปกครองโดยสุจริตด้วยวิธีการทางวิชาการ แต่เป็นการเสียดสีการปฏิบัติหน้าที่และกล่าวหาใส่ความให้ขาดความน่าเชื่อถือ เสื่อมเสียงชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอันเป็นการละเมิดอำนาจศาล
แม้นายศรีสุวรรณ จะได้ยื่นคำแถลงว่าได้สำนึกในผลของการกระทำ แต่การกระทำดังกล่าวของนายศรีสุวรรณ หารู้ผิดรู้ชอบว่าสิ่งใดสมควรกระทำหรือไม่สมควรกระทำ และเป็นการกระทำภายหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งลงโทษนายศรีสุวรรณ กรณีละเมิดอำนาจศาลในคดีเดียวกันมาก่อนแล้ว ซึ่งนายศรีสุวรรณ เคยให้คำมั่นต่อศาลว่า จะมิให้เกิดความผิดพลาดทำนองนี้อีก แต่นายศรีสุวรรณ ก็มิได้ดำเนินการแก้ไขคำอุทธรณ์ให้เหมาะสม ดังนั้น การที่นายศรีสุวรรณา ยื่นคำอุทธรณ์ทั้ง 14 คดี คัดค้านคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาล จึงสมควรลงโทษสถานหนักทุกคดี โดยสั่งลงโทษจำคุกนายศรีสุวรรณ มีกำหนดหนึ่งเดือน และปรับ 5หมื่นบาท รวมโทษจำคุก 14 คดี 14 เดือน ปรับ 7 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ไม่เคยปรากฏต่อศาลว่า นายศรีสุวรรณ ถูกจำคุกฐานละเมิดอำนาจศาลมาก่อนประกอบกับได้แถลงต่อศาลว่า ได้สำนึกผิดในผลแห่งการกระทำและเข็ดหลาบแล้ว จึงมีเหตุอันปรานีให้รอการลงโทษจำคุกไว้ในแต่ละคดีมีกำหนดสามปี ตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอ่านคำพิพากษาครั้งนี้เสร็จสิ้นในเวลา 13 นาฬิกา จากนั้นเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ได้นำรถมารอรับตัวนายศรีสุวรรณด้วย โดยนายศรีสุวรรณ ถูกคุมตัวชั่วคราวในห้องควบคุมเพื่อรอเลขาของนายศรีสุวรรณนำเงินมาชำระ แต่เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เลขาของนายศรีสุวรรณก็ยังไม่ได้นำเงินมาชำระ แต่ได้ประสานกับทางสำนักงานศาลปกครองว่าจะนำเงินมาชำระภายในวันนี้ ซึ่งต้องชำระภายในเวลา 16.30 น.ก่อนปิดเวลาทำการ มิเช่นนั้นจะถูกควบคุมตัว จากนั้นนายศรีสุวรรณ ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพจสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และไลน์แจ้งสื่อมวลชนถึงผลคำพิพากษาดังกล่าว พร้อมขอรับบริจาคเงินเพื่อจ่ายค่าปรับในคดีดังกล่าว เพราะถ้าไม่มีเงินจำนวน 7 แสนบาทมาชำระต้องจำคุกแทนค่าปรับ
“ผมน้อมรับคำสั่งศาล ผมคิดดี ทำดี ทำคดีให้ชาวบ้านโดยไม่หวังผลตอบแทน ด้วยจิตสาธารณะ แต่เนื่องจากเงินค่าปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก จึงอยากรบกวนสื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวไปยังชาวบ้านทั้งประเทศที่ผมช่วยฟ้องคดีให้ได้รับรู้และขอน้ำใจช่วยเหลือ โดยร่วมบริจาคเงินช่วยคำระค่าปรับคนละเล็กละน้อยผ่านทางเลขบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัส ลำลูกกา เลขที่ 693-2-05508-0 จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง”