นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่จะถึงนี้ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางตลอดเส้นทางให้กับประชาชน
ทั้งนี้ได้มอบหมาย ทล.ให้โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการหยุดก่อสร้างทั่วประเทศ และคืนพื้นผิวจราจรในช่วงระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 รวม 8 วัน เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ขณะเดียวกันยังได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมทางหลวงไม่ให้มีหลุมบ่อ ตรวจสอบไฟฟ้าแสงสว่างและไฟสัญญาณให้เพียงพอ พร้อมทั้งตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ และทำความสะอาดป้ายจราจร เพื่อให้เส้นทางอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน 100%
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ได้สั่งการให้หยุดดำเนินการก่อสร้างทุกโครงการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 พร้อมคืนพื้นผิวจราจรให้มีการใช้สัญจรได้มากที่สุด เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง
อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ประชาชนศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดด้วย
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า จากข้อสั่งการของนายสุริยะนั้น ทล.ได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเดินทางของประชาชนมีความสะดวกและปลอดภัยในระดับสูงสุด
ขณะนี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ ทล. ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมในทุกเส้นทาง พร้อมกับเตรียมอำนวยความปลอดภัย เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ทั้งนี้ ทล. ได้บูรณาการความร่วมมือกับตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับแก้ไขจุดเสี่ยง จุดอันตราย เช่น ทางโค้ง ทางลาดชัน จุดตัดทางรถไฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยในการสัญจร รวมถึงปิดจุดกลับรถในบางจุดที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือทำให้การจราจรติดขัด และรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างจิตสำนึก และกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัย
นายอภิรัฐ กล่าวต่อว่า ทล. ยังได้จัดเตรียมแผนอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ได้แก่ จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทยกว่า 300 แห่ง จุดให้บริการ ทล. 136 แห่ง แบ่งเป็นจุดให้บริการทั่วไป 84 แห่ง และจุดให้บริการพิเศษ (Premium) 52 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง 205 แห่ง
ส่วนจุดให้บริการสถานีตรวจสอบน้ำหนักและจุดพักรถบรรทุก 92 แห่ง การอำนายความสะดวกและบริการต่าง ๆ อาทิ ห้องน้ำสะอาด 643 แห่ง (แบ่งเป็นห้องน้ำชาย 357 แห่ง หญิง 357 แห่ง และผู้พิการ 170 แห่ง) หน่วยบริการเคลื่อนที่เร็ว 556 หน่วย พร้อมให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ทั้งในส่วนของการเปลี่ยนยางรถยนต์ การเติมน้ำมัน และการซ่อมแซมรถเบื้องต้น
อย่างไรก็ตามยังได้เตรียมจุดกางเต็นท์ 37 แห่ง สำหรับประชาชนที่ต้องการพักค้างแรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และบริการอื่น ๆ เช่น การติดตั้งป้ายแนะนำทางเลือก การบริหารสัญญาณไฟจราจร การเปิดช่องทางพิเศษ การจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในจุดที่การจราจรติดขัด การจัดทีมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉิน และการบริหารจัดการจราจร เป็นต้น อีกทั้ง ทล. ยังได้จัดเตรียมช่องทางการสื่อสารเพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุ