รัฐบาลเฉือนงบประจำ 1.2 แสนล้าน ปีงบ 69 โปะลงทุน กระตุ้นศก.
รัฐบาลเฉือนงบประจำ 1.2 แสนล้าน ปีงบประมาณ 2569 โปะงบลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้า ขณะที่ 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ นัดประชุม 3 ม.ค.68 เคาะกรอบงบฯ 69
แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันที่ 24 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้รับทราบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569 - 2572) เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะนัดประชุม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ คือ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะหารือกันเพื่อกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2569 ในวันที่ 3 ม.ค.2568 นี้
สำหรับกรอบงบประมาณปี 2569 จะเป็นไปตามแผนการคลังระยะปานกลาง โดยกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่าย 3.78 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.20% โดยเป็นการขาดดุลงบประมาณ 8.6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4.3% ต่อ GDP โดยในปีบประมาณ 2569 รัฐบาลมีแผนจะลดรายจ่ายประจำลง 1.2 แสนล้านบาท เพื่อนำไปเพิ่มวงเงินงบประมาณลงทุน เพื่อเป็นหนึ่งในช่องทางในการขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล
แหล่งข่าว ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการในที่ประชุมครม. ให้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานเศรษฐกิจ เร่งรัดการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะงบอื่น ๆ ที่นอกเหนือไปจากงบประมาณรายจ่ายที่รัฐบาลอนุมัติไป เช่น พิจารณานำเงินนอกงบประมาณ เงินรายได้ และเงินสะสม ออกมาใช้ก่อน รวมไปถึงเงินค้างท่อต่าง ๆ เพื่อช่วยลดภาระงบประมาณของประเทศ
พร้อมทั้งเร่งรัดการพิจารณาแหล่งเงินอื่น ๆ มาใช้ในโครงการภาครัฐ เช่น เงินกู้ การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และให้รัฐวิสาหกิจลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อดึงดูดใจนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทศไทยมากขึ้นในปีหน้าด้วย
ก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ถึงประเด็นเรื่องแผนการคลังระยะปานกลาง ว่า ได้ฝากข้อสังเกตให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐและกระทรวงการคลังดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ให้กระทรวงการคลังเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับประเทศที่มีระดับรายได้ใกล้เคียงกัน
2.ให้หน่วยงานที่รับงบฯเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณให้มีความคุ้มค่า ประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
3.หน่วยรับงบฯนำเงินนอกงบประมาณเงินรายได้หรือเงินที่สะสมมาใช้ดำเนินการภารกิจเป็นลำดับแรก
4.เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจและสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน