เตือน 7 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 13-24 ต.ค.67

08 ต.ค. 2567 | 10:50 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2567 | 11:48 น.

เตือน 7 จังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงพร้อมอัปเดตสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา -เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่นี่

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ 13-24 ตุลาคม 2567 จากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลลงมาสมทบส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัดดังนี้

  1. สมุทรปราการ 
  2. กรุงเทพมหานคร 
  3. นนทบุรี 
  4. ปทุมธานี 
  5. สมุทรสาคร 
  6. นครปฐม 
  7. สมุทรสงคราม

 

ด้านกรุงเทพมหานคร ได้ออกมารายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม. ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2567 โดยปริมาณน้ำผ่านจุดสำคัญ มีข้อมูลดังต่อไปนี้


สถานีจุดวัดน้ำ จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,326 ลบ.ม./วินาที

  • ปริมาณน้ำไหลผ่านที่เฝ้าระวัง อยู่ที่ 3,660 ลบ.ม./วินาที

จุดวัดน้ำบริเวณเขื่อนเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,199 ลบ.ม./วินาที

  • ปริมาณน้ำไหลผ่านที่เฝ้าระวัง อยู่ที่ 2,730 ลบ.ม./วินาที

สถานีจุดวัดน้ำบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,056 ลบ.ม./วินาที

  • ปริมาณน้ำไหลผ่านที่เฝ้าระวัง อยู่ที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที

รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม. น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จุดวัดน้ำบางไทร จุดวัดน้ำนครสวรรค์

ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร ได้แจ้งเตือน 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขตนอกคันกั้นน้ำ ยกของขึ้นที่สูง ตรวจสอบปลั๊กไฟ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยชุมชนนอกแนวปัจจุบัน 16 ชุมชน ประกอบด้วย
1.ซอยสีคาม (ซอยสามเสน 19 ช่วงปลาย) เขตดุสิต
2.ราชผาทับทิมร่วมใจ (เชิงสะพานกรุงธน) เขตดุสิต
3.ปลายซอยมิตตาคาม (สามเสน 13 ช่วงปลาย) เขตดุสิต
4.เทวราชกุญชร เขตดุสิต
5.ท่าวัง เขตพระนคร
6.ท่าเตียน เขตพระนคร
7.วัดปทุมคงคา (ท่าน้ำสวัสดี) เขตสัมพันธวงศ์
8.ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์
9.มาตานุสรณ์ เขตบางคอแหลม
10.หลัง ร.พ.เจริญกรุงฯ เขตบางคอแหลม
11.วัดอินทร์บรรจง เขตบางคอแหลม
12.วัดบางโคล่นอก เขตบางคอแหลม
13.โรงสี ถนนพระราม 3 เขตยานนาวา
14.ดุสิต นิมิตรใหม่ เขตบางกอกน้อย
15.เจริญนคร ซอย 29/2 เขตคลองสาน
16.ช่างนาค-สะพานยาว เขตคลองสาน

กรุงเทพมหานคร แจ้งเตือน 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขตนอกคันกั้นน้ำ ยกของขึ้นที่สูง

ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุด กรมชลประทาน ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (8 ต.ค. 67) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 683 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างฯ ซึ่งกรมชลประทาน จะทยอยปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จาก 100 ลบ.ม./วินาที เหลือ 50 ลบ.ม./วินาที ในวันพรุ่งนี้ (9 ตุลาคม 2567) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จากนั้นจะปรับลดการระบายน้ำอีกครั้ง ในวันถัดไป (10 ตุลาคม 2567) เหลืออัตรา 10 ลบ.ม./วินาที

 

ทั้งนี้เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาและหวังบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ทางตอนล่างของลุ่มเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 

เขื่อนป่าสักฯ ลดการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ลดปริมาณน้ำไหลไปสมทบเจ้าพระยาตอนล่าง

กรมชลประทาน ได้สั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่ง ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 
 

ขณะที่สถานการณ์ลุ่มเจ้าพระยา วันที่ 8 ต.ค.67 เวลา 07.00 น.กรมชลประทานได้มีการปรับการระบายน้ำดังนี้

สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์

  • ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,326 ลบ.ม./วินาที
  • แนวโน้ม : ลดลง
  • ระดับน้ำ : ลดลงจากเมื่อวาน 8 ซม. ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.07 ม.

สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

  • ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,199 ลบ.ม/วินาที
  • แนวโน้ม : ทรงตัวจากเมื่อวาน
  • ระดับน้ำท้ายเขื่อน : ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.24 ม.

 

เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนเจ้าพระยายังคงต้องระบายน้ำในอัตราดังกล่าว ทั้งนี้จะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ 

  • คลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
  • วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
  • อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
  • อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
  • วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง

สถานการณ์ระดับน้ำเริ่มทรงตัว และหากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป