นายกฯ สรุปรถบัสไฟไหม้ อย่าแก้ปลายเหตุ “ทัศนศึกษาไม่ทำร้ายเด็ก”

02 ต.ค. 2567 | 15:40 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ต.ค. 2567 | 15:51 น.

นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” นัดประชุมด่วนสรุปเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ ชี้ไม่อยากให้แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ระบุ ทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่เจอต้นตอแล้ว พร้อมสั่งคมนาคม คุมเข้ม

วันนี้ (2 ตุลาคม 2567) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นัดประชุมด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนออกเดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อรับทราบรายงานเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเหตุเพลิงไหม้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

 

นายกรัฐมนตรี นัดประชุมด่วนรับทราบรายงานเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียน เกิดเหตุเพลิงไหม้

 

สำหรับวงประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานสถานการณ์ล่าสุด ผู้เสียชีวิตทั้ง 22 ศพ ทางสถาบันนิติเวชได้ตรวจอัตลักษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรายสุดท้ายที่คุณแม่ ต้องการมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ความจริงได้พิสูจน์ผ่านทางพี่สาวทั้งหมดแล้ว คาดว่าเวลา 15.00 น. วันนี้ การตรวจอัตลักษณ์ทั้งหมดจะเสร็จสิ้น จากนั้นประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรถขบวน เพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับภูมิลำเนา 

ส่วนคนขับตอนนี้ได้ควบคุมตัวอยู่ที่ สถานีตำรวจภูธรคูคต เพื่อทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งได้เข้ามอบตัวตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากส่งเจ้าหน้าที่ไปกดดัน แต่ต้องสอบสวนในรายละเอียดทั้งหมดก่อน 

 

นายกรัฐมนตรี นัดประชุมด่วน รับทราบรายงานเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้

 

ขณะเดียวกัน พิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างการตรวจสอบรถคันที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากนี้จะนำไปวางมาตรฐานและกฎเกณฑ์ รวมถึงมีมาตรการเรื่องการตรวจสอบรถให้ฝ่ายปกครอง ขนส่ง เอกชน และส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเคร่งครัด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับทราบรายงานจากตำรวจที่มีความคืบหน้าการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จากนั้น จะลำเลียงส่งศพกลับจังหวัดอุทัยธานี ขณะที่กระทรวงคมนาคม ก็มีมาตรการเยียวยา และการตรวจสอบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขนส่ง โดยเรื่องนี้จะต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งนักจิตแพทย์ลงไปในพื้นที่ โดยได้แบ่งการทำหน้าที่กระจายไปให้ครอบคลุม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วมากพอสมควร

อย่างไรก็ดีตามข้อเสนอที่ว่าอยากให้รถโรงเรียนในไทยใช้เหมือนกับรถโรงเรียนในประเทศยุโรป นั้น นายกฯ ยอมรับว่า ได้พูดคุยกับกระทรวงคมนาคมแล้ว และต้องวางแผนต่อไป 

 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

 

“การทัศนศึกษาเป็นการเปิดโลกให้กับเด็ก ซึ่งไม่อยากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่รถที่ไม่มีการดูแล หรือถูกตรวจสอบสภาพ คือสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเรื่องนี้ต้องแก้ปัญหา ทั้งในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะวางกฎ และกรอบอย่างไร ดังนั้นจะใช้โอกาสนี้มาวางแผน วางระบบให้ชัดเจนมากขึ้นได้” 

นายกฯ ระบุว่า รถทุกคันก่อนที่รถจะออกเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางไกล ต้องตรวจสอบสภาพ และต้องมีสภาพที่พร้อมออกเดินทาง พร้อมกำชับให้วางแนวปฏิบัติในการเดินทาง จะต้องมีการซักซ้อมความปลอดภัย และคำแนะนำในการปฏิบัติตนเช่นเดียวกับการโดยสารเครื่องบิน และให้บังคับใช้แนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 

พร้อมกำชับให้กระทรวงคมนาคม เรื่องตรวจสภาพรถโดยสารจะต้องไม่ไช่เฉพาะรถบัส ต้องรวมไปถึงรถโดยสารทุกประเภท ทุกขนาด รวมถึงตรวจความพร้อมของบุคคลผู้ขับขี่ ผู้ช่วยประจำรถต่าง ๆ ด้วย

 

นายกฯ สรุปรถบัสไฟไหม้ อย่าแก้ปลายเหตุ “ทัศนศึกษาไม่ทำร้ายเด็ก”