"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง"เปิดผลงานปี 2566 ใช้งบกว่า 500 ล้าน ช่วยชีวิต สร้างชีวิต

27 พ.ค. 2567 | 13:45 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2567 | 14:08 น.

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง”เปิดผลดำเนินงานปี 2566 ใช้งบกว่า 500 ล้านบาท “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” เผยนโยบายเชิงรุกต่อเนื่อง พร้อมแจงความคืบหน้า “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” เตรียมเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้าสักการะฤกษ์มหามงคลรับเทศกาลตรุษจีน 2568

วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง องค์กรสาธารณกุศลเอกชนขนาดใหญ่ บรรเทาทุกข์ บำรุงสุขโดยไม่เลือกชนชั้น วรรณะ และศาสนาอย่างครบวงจรชีวิต มากว่า 114 ปี ภายใต้ปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” จัดแถลงผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์  ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิฯ 

ทั้งนี้ ในปี 2566 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นสะพานบุญผู้มีจิตศรัทธา ดำเนินงานสาธารณกุศลด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ใช้งบประมาณ 426 ล้านบาท 

รวมถึงรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) พร้อมเผยภาพองค์ไต้ฮงกงหินหยกขาว ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่ได้ประดิษฐานภายในศาลเจ้าฯ แล้วในขณะนี้ 

                                ศิริกุล โอภาสวงศ์

นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน ปี 2566 ของมูลนิธิฯ  ได้ใช้งบประมาณในการช่วยเหลือทั้งสิ้น 501,469,876.26 บาท แบ่งเป็นการช่วยเหลือ 3 ด้าน ดังนี้ 

ด้านการ “ช่วยชีวิต” มูลนิธิฯมีหน่วยบรรเทาสาธารณภัยและฌาปนกิจสุสาน ในงานกู้ชีพ กู้ภัย สนับสนุนงานนิติเวช และงานฌาปณกิจ  บริการช่วยเหลือประชาชน รับแจ้งเหตุผ่านสายด่วนและแอปพลิเคชัน ป่อเต็กตึ๊ง 1418 มีอาสาสมัครไม่ต่ำกว่า 4,000 คน พร้อมให้การช่วยเหลือจากเหตุต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการช่วยเหลือในต่างประเทศ 

นอกจากนี้ มีแผนกฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการกู้ชีพและบรรเทาสาธารณภัย การให้ความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินแก่หน่วยงาน ต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน รวมถึงมีภารกิจช่วยชีวิตผ่านงานสังคมสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัยต่างๆ อาทิ เหตุโรงเก็บดอกไม้ไฟระเบิดจังหวัดนราธิวาส เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2566  ซึ่งได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก  รวมงบประมาณด้านนี้กว่า 123 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์จำนวน 503,289 คน 

ด้านการ “รักษาชีวิต” มูลนิธิฯ มีหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนให้บริการตรวจรักษาประชาชนทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงถิ่นทุรกันดาร และยังสนับสนุนห้องผ่าตัด อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ขาดแคลน

                            วิเชียร เตชะไพบูลย์

รวมถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยรายได้น้อย ผู้ป่วยโรคไต ทั้งยังร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ให้บริการโดยศาสตร์การแพทย์แผนจีนแขนงต่างๆ อย่างครบวงจร รวมงบประมาณด้านนี้กว่า 119 ล้านบาท

ด้านการ “สร้างชีวิต” มูลนิธิฯได้ดำเนินโครงการต่างๆ กว่า 10 โครงการ ครอบคลุมด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ และการดำรงชีพ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด ในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้เปิดโครงการคาราวานปันสุขให้ชุมชน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ 50 เขตกรุงเทพฯ และยังได้ร่วมกับภาครัฐ ในโครงการแก้ปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน,

โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีที่มีรายได้น้อยที่ต้องดูแลคนในครอบครัว แม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม

                      \"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง\"เปิดผลงานปี 2566 ใช้งบกว่า 500 ล้าน ช่วยชีวิต สร้างชีวิต

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ“เล่นสนุกกับภาษาจีนกันเถอะ” ร่วมกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เปิดสอนภาษาจีนให้เยาวชนที่สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมงบประมาณด้านการสร้างชีวิต และการดำเนินงานอื่นๆ ของมูลนิธิฯ กว่า 258 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์จำนวน 613,653 คน

และในส่วนเป้าหมายการดำเนินงานของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในปี 2567 นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กล่าวเน้นย้ำ จุดยืนของมูลนิธิฯ ที่หนักแน่น จะยังคงนโยบายเดินหน้าพัฒนาการปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขแก่ทุกชีวิตที่ตกทุกข์ได้ยาก 

รวมถึงมุ่งมั่นพัฒนาและขยายขอบข่ายการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศล ช่วยเหลือสังคมอย่างครบวงจรชีวิต ตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ภายใต้ปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด 

จากนั้น นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ และนับเป็นประวัติศาสตร์แห่งการรวมพลังศรัทธาของหลวงปู่ไต้ฮง สร้างพุทธสถาน ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงหินหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย รวมถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (ตี่จั่งอ้วง) ขึ้นประดิษฐานภายในศาลเจ้าพร้อมกัน 

                             \"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง\"เปิดผลงานปี 2566 ใช้งบกว่า 500 ล้าน ช่วยชีวิต สร้างชีวิต

นอกจากนี้ ภายในศาลเจ้า จะยังเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าจีนอีกหลายองค์ เพื่อให้สาธุชนได้สักการบูชา ปัจจุบันการดำเนินก่อสร้างมีความคืบหน้าแล้วเสร็จทั้งในด้านงานก่อสร้างหลักตัวอาคาร งานโครงสร้างอาคาร งานสถาปัตยกรรม และงานระบบวิศวกรรมมากกว่า 90%

ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) เป็นการออกแบบร่วมกันโดยสถาปนิกชาวจีนและชาวไทย ให้เป็นศาลเจ้าแห่งใหม่กลางเมืองหลวง ด้วยสถาปัตยกรรมจีนตอนใต้ฉบับแต้จิ๋ว ที่กว้างขวางโอ่โถง วิจิตรงดงามในทุกรายละเอียด

โดยแบ่งเป็นอาคารศาลเจ้าสูง 2 ชั้น พร้อมการจัดสรรพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ที่จอดรถใต้ดินที่สามารถขึ้นสู่อาคารศาลเจ้าทั้งทางบันได และลิฟต์ เพื่อรองรับสาธุชนทุกเพศทุกวัย การตกแต่งภายใน เป็นการรวบรวมงานศิลปะ ประติมากรรมหินแกะสลัก ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงในจีนมาจัดแสดงไว้ภายในศาลเจ้า ซึ่งมีทั้งเรื่องราวพุทธประวัติ ประวัติของหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) และเทพเจ้าต่างๆ  คาดว่าจะ แล้วเสร็จเปิดให้สาธุชนได้เข้าสักการะก่อนเทศกาลตรุษจีนประจำปี พ.ศ. 2568

ทั้งนี้ ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) จะกลายเป็นศูนย์รวมความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่  พร้อมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของมูลนิธิฯ ในด้านกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมเพื่อสังคม มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตกุศล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจารึกประวัติศาสตร์ในการสร้างพุทธสถาน สืบสานพลังศรัทธา ร่วมทำความดี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

กว่า 114 ปี  ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำต้นแบบของการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ เชื้อชาติหรือศาสนา ของหลวงปู่ไต้ฮง ซึ่งได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความดีไว้บนผืนแผ่นดินจีน ก่อร่างสร้างตัวเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสามารถดำเนินภารช่วยเหลือได้ ครอบคลุมทุกมิติชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย ดั่งปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”