"พระราม2" อีกแล้ว เศษปูนโครงการสร้างทาง หล่นใส่รถทัวร์กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสาร สายกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ถูกเศษวัสดุการก่อสร้างทางต่างระดับ บนถนนพระราม 2 กระเด็นเข้าใส่ จนทำให้กระจกหน้ารถแตก  

ซึ่งขณะเกิดเหตุคนขับรถได้จอดรถ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดบริเวณริมถนนพระราม 2 ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ (ล่องใต้) ใกล้เคียงโรงพยาบาลเจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 

เมื่อ ร.ต.อ.วัชระ พลผาสุข รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบรถบัสโดยสาร ซึ่งเป็นรถร่วม บขส. ขนาด 24 ที่นั่ง หมายเลข 993 – 19 กรุงเทพมหานคร – สุราษฎร์ธานี  ทะเบียน 14 -1962 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ โดยที่กระจกหน้ารถมีลักษณะคล้ายกับถูกของแข็งกระแทกจนร้าวทั้งบาน

แต่ที่หนักที่สุดคือบริเวณที่ตรงกับที่นั่งคนขับ มีรอยแตกเป็นช่องโหว่ อีกทั้งตัวรถและล้อรถยังมีเศษปูนเกาะติดกระจายไปทั่ว โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

เบื้องต้นจากการสอบถามพนักงานขับรถทัวร์ เล่าว่า ขณะที่กำลังขับรถโดยสารมาตามเส้นทาง  เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า ช่วงที่กำลังขับผ่านงานก่อสร้างทาง ตนเห็นว่ามีรถแม็คโครกำลังเหวี่ยงขี้ปูนไปมา แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อมีขี้ปูนเป็นก้อน หลุดลอยมาปะทะเข้ากับหน้ารถทัวร์โดยสาร อย่างแรง จนทำให้กระจกแตก ส่วนตนคนขับรถได้รับบาดเจ็บ  เนื่องจากบริเวณใบหน้า ถูกเศษกระจกบาด และปวดแขนขวา เนื่องจากถูกเศษปูนกระแทก โชคดีที่ผู้โดยสารบนรถทั้งหมดปลอดภัย

ทั้งนี้ ภายกหลังเกิดเหตุ คนขับได้จอดรถและรอรถโดยสารอีกคัน เพื่อลำเลียงผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมาย จากนั้นตนถึงเดินทางไปพบแพทย์  และหลังเกิดเหตุทางผู้รับเหมานั้นก็ได้มาพูดคุยและยอมรับสารภาพผิดกับตนแล้ว

ทางด้านพนักงานประจำรถทัวร์ ที่นั่งมาด้านหน้าคู่กับโชว์เฟอร์ขับรถ เล่าว่า เหตุการณ์นี้ ตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก โดยตนเห็นตอนที่ขี้ปูนลอยมาปะทะกับกระจกหน้ารถ จนทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นกระจกหน้ารถก็แตกร้าว และกระเด็นไปบาดบริเวณใบหน้าของคนขับ โดยขณะเกิดเหตุคนขับได้พยายามควบคุมรถเข้าข้างทาง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้รีบเดินทางมาตรวจสอบ

นอกจากนี้ในส่วนของหัวหน้าผู้ควบคุมการก่อสร้างงานในช่วงเวลาดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลว่า ในช่วงที่เกิดเหตุนั้น รถแม็คโครกำลังทำงานอยู่  โดยกำลังยกเหล็กพีเอ็ม.ขึ้นมา แต่ว่าตะขอเหล็กเกิดหลุด  จนให้ทำตะแคง และเอียงออกข้างนอก และทำให้เสียหลักไปปะทะเข้ากับหน้ารถบัส ที่กำลังขับผ่านมาพอดี จนทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บ และรถโดยสารได้รับความเสียหาย 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้คนขับรถบัส พร้อมกับ ผู้เห็นเหตุการณ์ และ หัวหน้าผู้ควบคุมการก่อสร้างฯ ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป