“ซีพีเอฟ”หนุนชุมชนปราจีนบุรีร่วมปลูกต้นไม้สร้างสวนป่าเพิ่ม 4 แห่ง

25 ส.ค. 2566 | 14:01 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2566 | 14:06 น.

“ซีพีเอฟ”หนุนชุมชนร่วมปลูกต้นไม้ สร้างสวนป่า 4 แห่ง เน้นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ตั้งเป้าหมายปลูกต้นไม้เต็มพื้นที่ 200 ไร่ ภายในปี 2571

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร  จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดยธุรกิจสุกร ผนึกกำลังภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น และชุมชน ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ในโครงการสวนป่าชุมชน ขับเคลื่อนผืนป่า 4 แห่ง ปลูกต้นไม้ไปแล้วมากกว่า 1 แสนต้น มุ่งประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และช่วยกักเก็บคาร์บอน 

ล่าสุด คิกออฟสร้างผืนป่าแห่งที่ 4 "สวนป่าวราห์นาดี" ที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  ตั้งเป้าหมายปลูกต้นไม้เต็มพื้นที่ 200 ไร่ ภายในปี 2571    

 นายสมพร เจิมพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่  ธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า  ซีพีเอฟ มุ่งมั่นปกป้องพื้นที่สีเขียวและความหลากหลายทางชีวภาพ ดำเนินโครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ ส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในสถานประกอบการของบริษัท

                       “ซีพีเอฟ”หนุนชุมชนปราจีนบุรีร่วมปลูกต้นไม้สร้างสวนป่าเพิ่ม 4 แห่ง

รวมทั้งร่วมมือกับชุมชน ขับเคลื่อนโครงการ "สวนป่าชุมชน" ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ และต้นไม้ บนหลักของการสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกิดประโยชน์สูงสุด 

นับจากริเริ่มโครงการสวนป่าแห่งแรก  คือ ศูนย์เรียนรู้สวนป่ารักษ์นิเวศ โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร  ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร  ในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ขยายพื้นที่สร้างสวนป่าทั้งหมด 4 แห่ง ส่งเสริมการปลูกต้นไม้ไปแล้วรวมมากกว่า 100,000 ต้น ต่อยอดสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนของชุมชน แหล่งอาหาร แหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศพืชและสัตว์ แหล่งอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายาก ฯลฯ  เกิดผลกระทบทางบวกทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม     

โครงการสวนป่าชุมชนทั้ง 4 แห่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างกลไกความร่วมมือกับชุมชน ได้แก่  สวนป่าชุมชนหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร 

                  “ซีพีเอฟ”หนุนชุมชนปราจีนบุรีร่วมปลูกต้นไม้สร้างสวนป่าเพิ่ม 4 แห่ง

สวนป่าเชิงนิเวศในชุมชนหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า  ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 
โครงการปลูกป่าชุมชน ฟาร์มสุกรพ่อแม่พันธุ์หนองคาย ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยร่วมกับ บริษัท เอซีวายซี จำกัด ซึ่งเป็นคู่ค้าของซีพีเอฟ  และสวนป่าวราห์นาดี อ. นาดี จ.ปราจีนบุรี  

จากการริเริ่มดำเนินโครงการแห่งแรก มาตั้งแต่ปี 2557  เกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดรับกับนโยบายการดำเนินธุรกิจของซีพีเอฟ ภายใต้นโยบายฟาร์มสีเขียว (Green Farm)และหนุนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชุมชนและเกษตรกร      

                       “ซีพีเอฟ”หนุนชุมชนปราจีนบุรีร่วมปลูกต้นไม้สร้างสวนป่าเพิ่ม 4 แห่ง
     
"โครงการสวนป่าชุมชน ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สร้างแหล่งอาหาร  เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายาก กักเก็บคาร์บอน ที่สำคัญ คือ ส่งเสริมความตระหนักของชุมชนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ สร้างความร่วมมือของชุมชนในการบริหารจัดการป่าไม้ ต้นไม้  และใช้ประโยชน์จากป่าเกิดประสิทธิภาพสูงสุด " นายสมพร กล่าว    

ปัจจุบัน โครงการสวนป่าชุมชนทั้ง 4 แห่ง ซึ่งปลูกต้นไม้ไปแล้วรวมมากกว่า 100,000 ต้น นอกจากทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพของพันธุ์พืช และ สัตว์ แล้ว ยังพัฒนาสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้ และห้องเรียนธรรมชาติ  

เช่น  สวนป่าชุมชนหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร สวนป่าเชิงนิเวศในชุมชนหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า ที่เปิดให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน เป็นสถานที่จัดอบรมให้ความรู้การวัดต้นไม้ให้กับพนักงาน เพื่อเตรียมขอรับรองการประเมินการลดก๊าซเรือนกระจกโครงการ LESS ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)  หรือ อบก.  ร่วมบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ      

                        “ซีพีเอฟ”หนุนชุมชนปราจีนบุรีร่วมปลูกต้นไม้สร้างสวนป่าเพิ่ม 4 แห่ง      

ล่าสุด ซีพีเอฟ ได้ขยายพื้นที่สร้างผืนป่าชุมชนเป็นสวนป่าแห่งที่ 4 ที่ดำเนินการโดยธุรกิจสุกร ได้แก่  สวนป่าวราห์นาดี อ. นาดี จ.ปราจีนบุรี  พื้นที่รวม 200 ไร่  นำร่องกิจกรรมปลูกต้นไม้ในปีนี้ 10,000 ต้น อาทิ ต้นประดู่  ยางนา  มะค่า ตะเคียน  พะยอม และพะยูง  และมีเป้าหมายปลูกต้นไม้ให้เต็มพื้นที่ ภายในปี 2571 

กิจกรรมในครั้งนี้ มีนายสุมาตร รุ่งกำจัด ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ  นำจิตอาสาซีพีเอฟกว่า 240 คน ร่วมกันปลูกต้นไม้ และปล่อยปลา 10,000  ตัว ที่ได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาจากกรมประมง โดยมี นายภักดี ไทยสยาม ประธานหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า และผู้บริหารภาครัฐในพื้นที่  ทั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล  (อบต.) ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนจากกรมประมง และชุมชน ร่วมกิจกรรม เมื่อเร็ว ๆ นี้