ฝนตกหนัก 8-11 ก.ค.นี้ กรมชล เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม 24 ชั่วโมง

06 ก.ค. 2566 | 14:00 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2566 | 14:01 น.

พร้อมรับมือฝนตกหนัก กรมชลประทาน นำเครื่องจักร เครื่องมือประจำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในช่วงวันที่ 8-11 ก.ค.นี้ เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง  

หลังจากที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศฉบับที่ 8/2566 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เรื่อง ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคุลมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นนั้น

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์ด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในช่วงวันที่ 8 - 11 กรกฎาคม 2566 ดังนี้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จังหวัดอุบลราชธานี

  • อำเภอโขงเจียม
  • อำเภอสิรินธร  

จังหวัดนครพนม

  • อำเภอเมืองนครพนม
  • อำเภอธาตุพนม

จังหวัดมุกดาหาร

  • อำเมืองมุกดาหาร
  • อำเภอหว้านใหญ่

ภาคตะวันออก

จังหวัดระยอง

  • อำเภอเขาชะเมา
  • อำเภอแกลง
  • อำเภอบ้านค่าย
  • อำเภอนิคมพัฒนา  

จังหวัดจันทบุรี

  • อำเภอเมืองจันทบุรี
  • อำเภอขลุง
  • อำเภอเขาคิชฌกูฏ
  • อำเภอท่าใหม่
  • อำเภอมะขาม
  • อำเภอแก่งหางแมว

จังหวัดตราด

  • อำเภอเมืองตราด
  • อำเภอบ่อไร่

ภาคใต้

จังหวัดกระบี่

  • เกาะลันตา

จังหวัดพังงา

  • อำเภอกะปง
  • อำเภอตะกั่วป่า

จังหวัดระนอง

  • อำเภอเมืองระนอง
  • อำเภอกะเปอร์

จังหวัดสตูล

  • อำเภอควนกาหลง
  • อำเภอท่าแพ
  • อำเภอทุ่งหว้า
  • อำเภอมะนัง

จังหวัดตรัง

  • อำเภอเมืองตรัง
  • อำเภอกันตัง
  • อำเภอย่านตาขาว
  • อำเภอห้วยยอด
  • อำเภอวังวิเศษ
  • อำเภอหาดสำราญ  

จังหวัดพัทลุง

  • อำเภอป่าบอน

ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมรับมือ โดยติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และกำหนดจุดเสี่ยงพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ

พร้อมตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ และติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก

พิจารณาบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ และระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที