“พลายศักดิ์สุรินทร์” อาการดีขึ้น รออนุมัติงบ-พาหนะขนกลับไทย
กต.เผยความคืบหน้าภารกิจนำ “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับไทย ขณะนี้อาการบาดเจ็บดีขึ้น ไม่มีแผลแล้ว อยู่ในขั้นขออนุมัติงบฯ และจัดหายานพาหนะเพื่อการขนส่งที่เหมาะสม
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยวันนี้ (24 เม.ย.) ถึง ความคืบหน้า กรณี “พลายศักดิ์สุรินทร์” ช้างพลายไทย ที่ปรากฏเป็นข่าวว่าบาดเจ็บอยู่ใน ศรีลังกา และรอการส่งตัวกลับไทยเพื่อรับการรักษานั้น
กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามและให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยมีการประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้ติดตามอาการตลอดจนสภาพความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์มาอย่างต่อเนื่อง และได้ขอให้ทางการศรีลังกาอนุญาตให้นำตัวกลับมารักษาที่ไทย ซึ่งทางการศรีลังกาก็ได้แจ้งไม่ขัดข้องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว
ปัจจุบัน พลายศักดิ์สุรินทร์ได้ถูกย้ายมารับการดูแลในสวนสัตว์ Dehiwala ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (2565) กระทั่งมีสุขภาพดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่มีบาดแผลแล้ว แต่ขาหน้าซ้ายยังคงงอไม่ได้ ต้องรอมารักษาที่ไทย โดยมีควาญช้างไทยและสัตวแพทย์ของสวนสัตว์ดูแลใกล้ชิด ภาพก่อนหน้านี้ที่เห็นเป็นข่าวในโลกโซเชียลมีเดียเป็นภาพเก่า ขณะนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังอยู่ระหว่างการขออนุมัติงบประมาณเพื่อนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย รวมทั้งจัดยานพาหนะเพื่อการขนส่งที่เหมาะสม
ทั้งนี้ พลายศักดิ์สุรินทร์เป็นช้างที่รัฐบาลไทยมอบให้ศรีลังกาเป็นของขวัญและเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพไทย-ศรีลังกาตั้งแต่เมื่อปี 2544 แต่ต่อมา ทางไทยได้รับการร้องเรียนจากองค์การด้านการพิทักษ์สิทธิสัตว์ในศรีลังกาว่ามีการใช้แรงงานพลายศักดิ์สุรินทร์อย่างหนัก และได้รับการดูแลไม่เหมาะสมจนสุขภาพช้างพลายตัวนี้ได้เสื่อมทรุดลง จนต้องทำเรื่องประสานงานเพื่อติดต่อกับทางศรีลังกาขอพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ (23 เม.ย.) ว่า ทางกระทรวงฯ ไม่ได่นิ่งนอนใจ และตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายปี 65 แต่เรื่องนี้มีความซับซ้อนต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบเพราะช้างมีขนาดใหญ่และมีอายุมากแล้ว
ในเบื้องต้นคือกำลังหาวิธีการนำช้างกลับมา ว่าจะขนส่งกลับทางไหน เพราะถ้าจะใช้เครื่องบินลำเลียง C-130 กรงช้างก็จะใหญ่เกินไป แต่ถ้าพิจารณานำช้างกลับทางเรือ จากศรีลังกากว่าจะถึงไทยก็น่าจะประมาณสองสัปดาห์
“หรือถ้าจะใช้เครื่องบินพาณิชย์ ที่สามารถขนส่งกรงขนาดใหญ่ได้ มันก็มีเพียงไม่กี่รุ่นที่สามารถบรรทุกกรงช้างใหญ่ขนาดนี้ อีกทางเลือกคือหากต้องใช้เครื่องบินที่ใช้ในการขนส่งลำเลียงอาวุธสงคราม-รถถัง ก็ต้องรอคิว”
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเฝ้าติดตามดูแลเรื่องนี้มาโดยตลอด มีการทำงานร่วมกันและประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง มีการส่งสัตวแพทย์และเวชภัณฑ์ไปดูแลพลายศักดิ์สุรินทร์เป็นอย่างดี ขั้นตอน ณ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเอกสารพาพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทยด้วยความปลอดภัยและสวัสดิภาพ