ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติบนท้องฟ้ายังมีอะไรให้น่าค้นหา ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ระบุว่า ในวันที่ 21 มีนาคม 2566 นี้เป็น "วันวสันตวิษุวัต" คือ เวลากลางวันยาวเท่ากับกลางคืน
วันวสันตวิษุวัต คือ อะไร
"วสันตวิษุวัต" (วะ-สัน-ตะ-วิ-สุ-วัด) (Vernal Equinox) คือ ช่วงเวลากลางวันยาวเท่ากับกลางคืน โดยคำว่า "วิษุวัต" (Equinox) เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึง "จุดราตรีเสมอภาค" จุดที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลกพอดีส่งผลให้เป็นวันที่มีเวลากลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน
วันดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งต่อปี คือ ช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของซีกโลกเหนือ เรียกว่า วันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) และช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงของซีกโลกเหนือ เรียกว่า วันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox) แต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฏในตำแหน่งต่างกัน เปลี่ยนตำแหน่งไปประมาณวันละ 1 องศาตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา
ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ เคลื่อนจากจุดใต้สุดขึ้นมาทางเหนือ เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนมา ณ ตำแหน่งตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลก ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกและตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกพอดี
สำหรับประเทศไทยวันดังกล่าวดวงอาทิตย์ขึ้นเวลาประมาณ 06.21 น. และตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18.28 น. (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) นับเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของประเทศทางซีกโลกเหนือและเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางซีกโลกใต้
ฤดูกาลเกิดจากแกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศากับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณไม่เท่ากันส่งผลให้มีอุณภูมิต่างกัน รวมถึงระยะเวลากลางวันและกลางคืนก็ต่างกันด้วย
เหตุนี้ทำให้เกิดฤดูกาลขึ้นบนโลกนั่นเอง จะสังเกตได้ว่า ในฤดูร้อนเวลากลางวันจะยาวกว่ากลางคืน ดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็วและตกช้า แตกต่างกับฤดูหนาวเวลากลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวัน ดวงอาทิตย์จะขึ้นช้าและตกเร็ว
ปรากฏการณ์ต่อไปที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ คือ "วันครีษมายัน" (Summer Solstice) ในวันที่ 21 มิถุนายน 2566 เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุดส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันยาวที่สุดในรอบปี
สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้ นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว