“ในหลวง"ทรงรับกำลังพล“เรือหลวงสุโขทัย”ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

20 ธ.ค. 2565 | 19:25 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2565 | 02:37 น.

“ในหลวง"ทรงรับกำลังพล “เรือหลวงสุโขทัย” ล่ม ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ด้าน “ผบ.ทร.”เสียใจพบผู้เสียชีวิต ล่าสุดพบเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย รวมเป็น 5 นาย สรุปยอดพบ 81 นาย สูญหาย 24 นาย

 

วันนี้ (20 ธ.ค.65) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.ร.อ.ชลธิศ  นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ  แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง


พล.อ.เรือเอก กล่าวว่า ขอเรียนให้ทราบว่า กองทัพเรือสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับกำลังพลของ “เรือหลวงสุโขทัย" ที่บาดเจ็บ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ พระราชทาน ยาและ เวชภัณฑ์

 

"ผมขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้อง กำลังพลในเรือหลวงสุโขทัยที่วันนี้เราได้มีการพบร่างผู้เสียชีวิต จากการปฏิบัติการลาดตระเวนช่วยเหลือ พบ 6 ราย เป็นผู้ประสบภัยที่มีชีวิต 2 รายและเสียชีวิต 4 ราย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างค้นหาผู้ที่ยังสูญหาย"

 

พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวต่อว่า กองทัพเรือจะต้องมีการรายงานเหตุการณ์ตามระเบียบเป็นการรายงานด่วนถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

 


กองทัพเรือมีระเบียบว่าด้วยการป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย ที่ต้องให้หน่วยที่เป็นผู้บัญชาการของเรือก็คือทัพเรือภาค 1 รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายงานความสูญเสียทั้งในเรื่องของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ จากนั้นจะมีการรายงานเรื่องของระเบียบความรับผิดทางละเมิด ที่จะต้องรายงานข้อเท็จจริงไปถึงกระทรวงการคลัง และ นายกฯ ได้รับทราบ
“จะสอบตั้งแต่ ผู้การเรือ ไปจนถึง กำลังพลทุกนาย ถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น ขั้นตอนปฏิบัติ”


เพราะฉะนั้นในรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาเหตุของเรือจมที่มีการกล่าวว่าเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพล ต้องถูกสอบสวนและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมาที่กองทัพเรือ ขอให้ประชาชนได้รับทราบว่าเรามีกฎหมายแนวทางปฏิบัติที่จะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงในทุกเรื่อง รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น 


รายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์สูญเสียในบางเรื่องเราสามารถเปิดเผยได้ แต่ในบางเรื่องก็เป็นไปตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยไม่ได้ กองทัพเรือไม่ปกปิดข้อมูลใดๆทั้งสิ้นเราจะสอบสวนทางข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะญาติพี่น้องของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ได้รับความสูญเสีย  และเข้าใจถึงญาติพี่น้องของกำลังพลที่ยังหาไม่พบ


"ผมจะนำกำลังพลทุกนายกลับบ้าน ยืนยันว่ากองทัพเรือจากทำทุกอย่างอย่างเต็มความสามารถ ในการช่วยเหลือกำลังพลทั้งในส่วนที่ปรับตัวมาแล้วและที่ยังค้นหาไม่พบ"


ด้าน พล.ร.อ.ชลธิศ  นาวานุเคราะห์  เสนาธิการทหารเรือ   กล่าวด้วยว่า  ขณะที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางได้มีการส่งเรือไปช่วยเหลือ และเร่งดำเนินการค้นหากำลังพลทั้ง 30 คนแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าในคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเช้าวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา คลื่นลมแรง การช่วยเหลือต่างๆ ที่ส่งไปเข้าไปถึงยากต่อการช่วยเหลือ  


ทั้งนี้เวลา 15.00 น. ตรวจพบผู้รอดชีวิตลอยห่างจากจุดที่เรือจมประมาณ 60 กิโลเมตร ย้ำว่ากองทัพเรือยังคงดำเนินการค้นหาลูกเรือที่เหลืออยู่ ทั้งนี้สรุปแล้วตอนนี้เราค้นหาพบแล้ว 81 ราย ยังเหลือที่ยังไม่พบอยู่ในน้ำ อีก 24 ราย และผู้ที่พบแล้วมีผู้เสียชีวิต 5 ราย อยู่ระหว่างการนำส่งและพิสูจน์ทราบ

 

ทั้งนี้หลังจากนี้กองทัพเรือร่วมกับกองทัพอากาศจะดำเนินการค้นหากำลังพลลาดอย่างตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน จนกว่าจะพบกำลังพลที่เหลืออีก 24  ราย