"กรมเจ้าท่า" เร่งสอบเหตุไฟไหม้ "เรือครุยส์หรู" ข้ามฟากภูเก็ต-เกาะพีพี

11 ธ.ค. 2565 | 17:40 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2565 | 00:32 น.

"กรมเจ้าท่า" ตั้ง คกก.สอบสวนเหตุไฟไหม้ "เรือครุยส์หรู" ข้่ามฟากภูเก็ต-เกาะพีพี สั่งงดใช้ใบอนุญาตใช้เรือ เตรียมหามาตรการป้องกันเกิดเหตุการณ์ซ้ำ

11 ธันวาคม 2565 นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม สั่งการให้กรมเจ้าท่า เร่งลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุเรือเกิดเพลิงไหม้บริเวณท่าเรือซีแองเจิล จ.ภูเก็ต ตนจึงมอบหมายให้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า สั่งให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตั้งคณะกรรมการ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริง ดำเนินการตามกฎหมายและหาแนวทางป้องกัน เพื่อกำหนดมาตรการความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เบื้องต้นได้ออกคำสั่งงดใช้ใบอนุญาตใช้เรือแล้ว

 

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือชื่อ ซี แองเจิล บียอนด์ หมายเลขทะเบียน 595103979 เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริเวณท่าเรือซีแองเจิล คลองท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 11 ธ.ค.65 ซึ่งภายในเรือไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือ ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

 

ขณะเกิดเหตุได้ดำเนินการลากเรือลำดังกล่าวออกมาอยู่บริเวณกลางคลองเพื่อป้องกันเพลิงลุกลามไปยังเรือลำอื่น และได้ควบคุมเพลิงด้วยการฉีดน้ำดับเพลิงบริเวณหัวเรือและฉีดน้ำหล่อเย็นบริเวณท้ายเรือ และฉีดโฟมเข้าไปในตัวเรือ

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอำเภอเมือง ทัพเรือภาคที่ 3 รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดภูเก็ต ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลรัษฎา หัวหน้าศูนย์ความมั่นคงท่าเทียบเรือภูเก็ต ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เจ้าพนักงานตรวจเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตำรวจน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อควบคุมเพลิง ตรวจสอบเรือ สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ รวมถึงประสานความร่วมมือในการควบคุมเพลิง

 

ทั้งนี้ จากการสอบถามพยานแวดล้อม ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่า ต้นเพลิงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เกิดจากบริเวณสะพานเดินเรือ และได้ลามมายังห้องผู้โดยสาร ซึ่งมีเบาะนั่งเป็นจำนวนมาก ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้มีการต่อกระแสไฟฟ้า 220 โวลต์ จากฝั่งมาใช้งานในเรือตามปกติขณะเรือจอดเทียบท่า สาเหตุเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณสะพานเดินเรือ โดยเพลิงยังไม่ได้ลุกลามถึงห้องเครื่องยนต์เรือ ห้องน้ำมันเชื้อเพลิง ห้องหางเสือ ห้องอับเฉา

อย่างไรก็ดี ขณะนี้สถานการณ์เพลิงที่ลุกไหม้ออกมาบริเวณนอกตัวเรือเริ่มสงบลง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเริ่มทยอยขึ้นบนตัวเรือ เพื่อควบคุมเพลิงภายในตัวเรือ และสามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้เรียบร้อยแล้ว

 

พร้อมได้นำเรือมาเทียบท่าเพื่อไม่กีดขวางการเดินเรือ ไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหลลงคลองและได้ดำเนินการปฏิบัติการควบคุมเพลิงประกอบไปด้วย ทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 3 และ จ.ภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต เทศบาลรัษฎา ตำรวจน้ำ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการนำแบบแปลนเรือมาเพื่อใช้ในการวางแผนเข้าดับและควบคุมเพลิงได้จนสำเร็จ

 

ขอบคุณภาพจาก : เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต Newshawk Phuket