รีวิว Nissan Kicks Star Edition ลุคเข้ม เพิ่มความสด ผลิตแค่ 300 คัน

Nissan Kicks บี-เอสยูวี ขุมพลังไฮบริด ถือเป็นรถดี มีความน่าใช้ แต่ต้องยอมรับว่าจังหวะจะโคนในการทำตลาด ดูไม่ค่อยเป็นใจนัก เพราะหลังจากปรับสเปกใหม่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว (เปิดตัว ก.ค. 2565) ทั้ง คอสเมติกเชนจ์ และใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด e-Power เจเนอเรชันที่สอง พร้อมปรับลดราคาลงหลักแสนบาท ก็ช่วยทำให้นิสสันเรียกลูกค้ากลับมาได้เพียบ

ตอนนั้นรถดี กระแสได้ แต่ดันมาติดช่วงโควิด-19 แม้มียอดจองรถเข้ามาเยอะก็จริง แต่อุตสาหกรรมยานยนต์มีปัญหาเรื่องซัพพลายเชน ซึ่ง Nissan Kicks ใช้ชิ้นส่วนจากจีนเยอะ ระบบการผลิตแทบจะพิการ ส่งผลให้ลูกค้าต้องรอรับรถกันนานพอสมควร (แต่ยอดขายดีขึ้นกว่าการเปิดตัวครั้งแรกมาก)

พอฟ้าเริ่มสดใส เคลียร์ปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนได้ โรงงานนิสสัน ถนนบางนา-ตราด พร้อมลุยเต็มที่ แต่กลับต้องมาเจอคู่แข่งสุดโหด ทั้ง Toyota Yaris Cross (เปิดตัว ต.ค. 65) รถใหม่ในเซกเมนต์ที่โตโยต้าไม่เคยมีมาก่อนในไทย ตลอดจน EV จีน ที่ตบเท้าเข้ามาแย่งยอดขาย ล้วนทำให้ทางเดินของนิสสันยากขึ้น

ในกลุ่มบี-เอสยูวี ปัจจุบัน Nissan Kicks อยู่อันดับสี่ ขายได้เฉลี่ย 300 คันต่อเดือน เป็นรอง Toyota Yaris Cross Honda HR-V และ Toyota Corolla Cross แถมเจอ EV จีน กระหนํ่าลดราคาเหมือนเล่นขายของ แต่นิสสันก็สู้ไม่ถอย ล่าสุดในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2024 กระตุ้นความสดใหม่ด้วยการเปิดตัว Nissan Kicks Star Edition รุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด 300 คัน โดยขยับราคาเพิ่มจากตัว VL 19,900 บาท เป็น 939,900 บาท

พูดง่ายๆ คือนำ Nissan Kicks รุ่น VL มาต่อยอด ปรับแต่งเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นคนละแนวทางกับรุ่น Autech ที่ขายเป็นปกติในราคา 979,900 บาท

สำหรับ Nissan Kicks Star Edition คุณจะได้ความพิเศษจากทริมต่างๆ ชิ้นงานสีดำรอบคัน ทั้ง กระจังหน้า (ขอบ V-Motion) คิ้วกันชนหน้า-หลัง ตัดกับกระจกมองข้างสีเทาเงิน และสติ๊กเกอร์ Star Edition ด้านข้าง

ภายในชัดเจนจากหมอนรองศีรษะเบาะนั่งคู่หน้า ปักตัวอักษร Star Edition คิ้วบันไดสแตนเลสตรา Star Edition ชุดพรมปูพื้น Kicks และชุดแต่งสีดำรอบปุ่มควบคุมแอร์

ใครอยากได้ความโดดเด่นเพิ่มเติม เลือกได้เลยว่าจะเน้นเข้มขรึม อย่าง Star Edition หรือจะพรีเมียมดุดันแบบ Autech

ตัวรถขนาดกำลังดี ใช้งานในเมืองคล่องแคล่ว อัตราเร่งเหลือๆ จากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพลาหน้า (ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบขนาด 1.2 ลิตร ปั่นไฟ เป็นไฮบริดแบบซีรีส์) โดยเจเนอเรชันที่ 2 ของระบบ e- Power วิศวกรนิสสันรวมเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) กับมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ให้เป็นยูนิตเดียวกัน จึงช่วยลดนํ้าหนักลงไป 30%

ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าอัพพละกำลังเป็น 136 แรงม้า (เดิม 129 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร (เดิม 260 นิวตันเมตร)  ขณะเดียวกันยังเพิ่มความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็น 2.06 kWh (เดิม 1.57 kWh) รองรับการชาร์จ การกักเก็บ และจ่ายพลังงาน ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

สมรรถนะ Nissan Kicks ด้านอัตราเร่ง ช่วงล่าง การควบคุม ไม่เป็นรองใครในกลุ่ม บี-เอสยูวี ราคาตํ่า 1 ล้านบาท หรือบุคลิกการขับขี่อาจจะเนียนกว่า Toyota Yaris Cross ด้วยซํ้า เพียงแต่ฟังชันรวมๆ บี-เอสยูวี จากโตโยต้า จัดเต็ม และอาจได้เปรียบเรื่องอัตราบริโภคนํ้ามันเมื่อใช้ทางไกลความเร็วสูง

Nissan Kicks e-Power ถ้า ขับในเมืองมีตัวเลข 20 กม./ลิตร ให้เห็นแน่ๆ แต่ถ้าวิ่งออกนอกเมืองความเร็วสูงต่อเนื่อง ระบบขับเคลื่อนไฮบริดแบบซีรีส์นี้ จะประหยัดนํ้ามันสู้การขับในเมือง (รถติดๆ) ไม่ได้

ด้านความปลอดภัย จัดให้สมเนื้อสมตัว ไม่ว่า ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน (Forward Collision Warning) และระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning)

รวบรัดตัดความ... Nissan Kicks โดดเด่นด้านสมรรถนะการขับขี่ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ใช้งานในเมืองประหยัดนํ้ามันจากระบบไฮบริดแบบซีรีส์ มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า อารมณ์เหมือน EV เพียงแต่ยังต้องเติมนํ้ามันให้โรงงานผลิตไฟฟ้าของรถ (เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร) ใครยังไม่พร้อมไป EV แต่อยากได้เอสยูวีขนาดกะทัดรัด ขับดี ราคาสมเหตุสมผล ลองพิจารณาได้ครับ

รีวิว Nissan Kicks Star Edition : กรกิต กสิคุณ