เดินหน้าเต็มสูบสำหรับแบรนด์ "เกีย" ล่าสุดเกีย คอร์ปอเรชัน มอบหมายให้ บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศวิสัยทัศน์พร้อมทั้งกลยุทธ์การตลาด การสร้างแบรนด์ เป้าหมายการเติบโตในตลาดประเทศไทย ภายใต้ชื่อ Plan S-5 เพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายปี 2567-2571
นายจุน โอ อี ประธาน บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภายใต้แผน Plan S-5 ประกอบด้วยเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่
"เรามีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด 5 % ภายใน 5 ปี ขณะที่ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเราคาดว่าจะมียอดขาย 50 % ส่วนที่เหลืออีกก็จะมาจากรถยนต์สันดาป ICE ในรุ่น คาร์นิวัล และ ไฮบริด อย่าง โซเรนโต โดยในเซกเมนต์รถยนต์ไฟฟ้านั้น ตามแผนที่วางไว้จะเปิดตัว Kia EV9 ในเดือนมีนาคมนี้ "
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในรุ่น Kia EV9 เป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่รุ่นแรกในประเทศไทยที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ คาดว่าราคาจะทะลุ 2 ล้านบาท โดยเกียจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่นี้ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 สำหรับสื่อมวลชน และเปิดตัวสำหรับประชาชนทั่วไปในวันที่ 2 มีนาคม 2567
นายณัฏฐ์ชัย สุรวรรธนกุล รองประธานฝ่ายขาย เครือข่ายผู้จำหน่าย และบริการหลังการขาย บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้นในปี 2567 โดยคาดว่ายอดจำหน่ายจะขยับตัวขึ้นเป็น 850,000 – 860,000 คัน จากอานิสงส์ของรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น
จากแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ทำให้บริษัทฯมีแผนงานขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย โดยปัจจุบันเกียมีผู้จำหน่าย และศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ 19 แห่ง และภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีทั้งสิ้น 26 แห่ง และภายในปี 2571 จะมีจำนวน 100 แห่งทั่วประเทศ
"นโยบายใหม่ของเรา จะรับประกันคุณภาพรถเป็นระยะเวลา 7 ปีให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป และการรับประกันตามมาตรฐานใหม่ของเราจะมาควบคู่กับการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 7 ปี ส่วนรถยนต์ในรุ่นปัจจุบันที่จำหน่ายในตอนนี้อย่าง เกีย คาร์นิวัล จะยังคงแคมเปญการรับประกันเดิม 5 ปี"
นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผนว่า จากเป้าหมายของแผนงานทีได้วางไว้ ทำให้เกีย มีการออกแบบการสื่อสารการตลาด โดยวางตำแหน่งแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ของรถยนต์ Premium Smart
สำหรับนิยามของคำว่า Premium จะสื่อถึงการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ตั้งแต่ทัชพอยท์แรกทางอินเทอร์เน็ตไปจนถึงทุกๆ ช่องทางที่ลูกค้าจะได้สัมผัสกับแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องรวมถึงศูนย์บริการและผู้จำหน่าย นอกจากนั้นแล้วจะมุ่งเน้นใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินงาน และใช้ข้อมูลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการสร้างปฏิสัมพันธ์แบบเฉพาะบุคคลกับลูกค้า
ส่วนคำว่า Smart สื่อถึงการมุ่งหวังให้ลูกค้าชาวไทยได้รับประสบการณ์ใหม่ล่าสุดในการขับขี่ โดยการนำเสนอรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมกับเพิ่มรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวี และเอ็มพีวี และนำเอาโซลูชันด้านการเชื่อมต่อรูปแบบต่างๆ มาใช้ในอนาคตอันใกล้นี้
“จากกลยุทธ์ Plan S-5’ ได้วางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนที่จะขึ้นแท่นเป็นแบรนด์รถยนต์ 1 ใน 5 อันดับแรกในแง่ของการรับรู้แบรนด์ และเพิ่มสัดส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบให้เป็น 50% เส้นทางของเราในการทำตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมเริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้ด้วยการประกาศทำตลาด Kia EV9 ในต้นเดือนมีนาคมนี้"