สถานการณ์ของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ในปี 2566 คาดว่ายอดขายจะลดลงประมาณ 6% เมื่อเทียบกับปี 2565 แต่เป็นอัตราส่วนที่ลดลงต่ำกว่าตลาดรวม โดยโตโยต้ายืนยันว่า การมาของ EV (จีน) ไม่กระทบกับยอดขายอีโคคาร์ และปิกอัพของตนเอง แต่การที่ตัวเลขหดตัวนั้นเป็นไปตามสภาพตลาด โดยเฉพาะกลุ่มปิกอัพที่ซบซึมตลอดทั้งปี (ตลาดปิกอัพตก 30%) ดังนั้น เมื่อเปิดศักราชใหม่ จึงประกาศใส่เกียร์เดินหน้า ด้วยการปูพรมส่งรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะกลุ่มรถไฮบริด ที่ทยอยเสริมทัพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีความชัดเจนว่าค่ายรถอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น จะกลับมาทำตลาด Toyota Prius Hybrid 2024 ในไทยอีกครั้ง
Toyota Prius HEV Gen 5 เปิดตัวครั้งแรกในโลกช่วงต้นปี 2566 ซึ่งการทำตลาดในไทยจะเป็นการนำเข้าทั้งคันมาจากประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ โตโยต้าเคยขึ้นไลน์ประกอบ Toyota Prius เจเนอเรชันที่ 3 ในไทยช่วงปี 2553 กับราคาขายล้านต้นๆ แต่หลังจากนั้นเกิดสถานการณ์ซับซ้อน มีปัญหาเรื่องการคำนวณพิกัดภาษีนำเข้า จนต้องยุติการทำตลาดไป และถูกภาครัฐฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย โดยต่อสู้กันถึงศาลฎีกา สุดท้ายโตโยต้าแพ้คดี(ก.ย.65) จนต้องชดใช้เงินคืนให้ภาครัฐกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
นั่นหมายความว่า Toyota Prius เจเนอเรชันที่ 3 เคยทำตลาดในไทยประมาณ 2-3 ปี และเว้นว่างในเจเนอเรชันที่ 4 ไป แต่จะกลับมาทำตลาดอีกครั้งใน Toyota Prius Gen 5 โดยนำเข้าทั้งคันมาจากญี่ปุ่น ส่วนจะมีแผนประกอบในไทยหรือไม่ โตโยต้ายังไม่ยืนยันในประเด็นนี้
Toyota Prius 2024 โฉมใหม่ ในญี่ปุ่นมีทั้งรุ่นไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร รวมถึงรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟ และวิ่งในโหมด EV ได้ระยะทาง 94 กิโลเมตร
นอกจาก Toyota Prius 2024 โตโยต้ายังเตรียมเสริมทัพ Yaris Ativ รุ่นไฮบริด หลังจากเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ตั้งแต่ปี 2565 และในปีที่ผ่านมาทำยอดขายได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 4,000 คัน เป็นอันดับหนึ่งในเซกเมนต์อีโคคาร์ (ฮอนด้า ซิตี้ เฉลี่ย 1,500 คันต่อเดือน)
ทั้งนี้ Toyota Yaris Ativ HEV เลื่อนกำหนดการเปิดตัวมาจากปลายปี 2566 เนื่องจากโตโยต้าต้องมุ่งสรรพกำลังไปที่ Yaris Ativ อีโคคาร์ และบี-เอสยูวีรุ่นใหม่ Yaris Cross ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นรถที่ขายดีทั้งคู่ และผลักดันให้ยอดขายรถยนต์นั่งของโตโยต้าในปี 2566 เกิน 1 แสนคัน เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2565
สำหรับ Toyota Yaris Ativ HEV จะใช้ขุมพลังบล็อกเดียวกับ Yaris Cross HEV คือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน คาดราคาจะเพิ่มขึ้นจากรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ประมาณ 1-2 แสนบาท
จากแผนงานของ โตโยต้าที่ยังเดินหน้าลุยกับขุมพลังไฮบริดในรถยนต์นั่งหลากหลายรุ่น ซึ่งประธานใหญ่ ยังขอให้รัฐบาลสนับสนุนรถไฮบริดประเภทนี้ต่อไป
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โครงสร้างตลาดรถยนต์ไทย รถปิกอัพมีสัดส่วน 50% และอีโคคาร์ 25% จากยอดขายทั้งหมด จึงอยากให้รัฐบาลส่งเสริมโปรดักต์ 2 ประเภทนี้ต่อไป
“เราพูดคุยกับท่านนายกเศรษฐา ทั้งก่อนและหลังที่ท่านจะเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งเราเข้าใจถึงการส่งเสริม EV แต่การพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อื่นๆ ก็สำคัญ ทั้ง ICE Hybrid ซึ่งเราอยากเรียกร้องให้รัฐบาลไทยสนับสนุนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย”
“แม้การมาของ EV ไม่มีผลต่อตลาดปิกอัพ และอีโคคาร์ของโตโยต้า แต่จะกระทบกับรถในกลุ่ม ซี,ดี เซกเมนต์ รวมถึงเอสยูวี ซึ่งในปี 2566 ยังถือเป็นปีที่ดีของโตโยต้า เพราะยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ทำได้ 34% (สูงสุดในรอบ 10 ปี) ซึ่งในปี 2567 เราหวังว่าตลาดรวมจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคงต้องจับตาสถานการณ์ของ EV ว่าจะเติบโตขึ้นไปขนาดไหน ซึ่งการที่โตโยต้าจะรักษาส่วนแบ่งการตลาดเอาไว้ในระดับนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย” นายยามาชิตะ กล่าว