EV ปี’67 แข่งดุ ผู้บริโภคยังหวั่น 4 ปัญหาก่อนซื้อ
ตลาด EV ปี 2567 เปิดหน้าท้าชนกันสนุก นำโดยค่ายใหญ่จากจีนเกือบ 10 ราย ซึ่งแต่ละรายหวังยอดขายเป็นหลักหมื่นคันต่อปีด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยการทำธุรกิจแบบตรงไปตรงมาคือ หากอยากได้ยอดขายเพิ่ม หรือเตะตัดขาคู่แข่ง ก็ลดราคาลงมา หรือใส่โปรโมชันแบบเต็มๆ
ตามวลีที่ว่า “EV ซื้อก่อนประหยัดก่อน แต่ซื้อหลังประหยัดกว่า” ซึ่งเราเห็นสถานการณ์นี้มาตั้งแต่ปลายปี 2566 ทั้ง BYD NETA AION ที่ประกาศลดราคาโต้งๆ แบบไม่เกรงใจลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้า (จริงๆต้องรวม TESLA ด้วย)
โดยเรเว่ ออโตโมทีฟ ประกาศลดราคา ATTO 3 ลง 100,000 บาท และคืนเงินให้กับลูกค้าที่ซื้อรถไปก่อนหน้านี้ (ระหว่าง 1-28 พฤศจิกายน 2566) จำนวน 50,000 บาท ส่วน NETA กระหน่ำแคมเปญช่วงปลายปี ด้วยการลดราคา NETA V ลงมาเหลือ 499,000 บาท
ส่วน GAC AION ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 เปิดตัว AION Y PLUS (29 พ.ย.) รุ่นย่อยใหม่ Premium ราคา 1,099,900 บาท ทว่าหลังจากนั้นเพียงวันเดียว (30 พ.ย.) ประกาศลดราคาทันที 1 แสนบาท เช่นเดียวกับรุ่น Elite ที่เคยลดราคามาเหลือ 969,900 บาทรอบหนึ่งแล้ว แต่ล่าสุดปรับลงอีก 70,000 บาท เป็น 899,900 บาท
ส่วนแบรนด์ที่มาก่อนอย่าง MG มีลดราคาหลัก 100,000 บาท สำหรับ MG 4 และ 90,000 บาท ขณะที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีช่วยผ่อน ORA Good Cat มูลค่าสูงสุด 120,000 บาท
เรียกว่า “ลด แลก แจก แถม” กันทุกค่ายในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าการทำสงครามราคาจะหนักหน่วงต่อเนื่องในปี 2567 ที่ จีเอซี ไอออน,ฉางอาน ได้ทำตลาดเต็มปี และมีน้องใหม่อย่าง เชอรี่ กับแบรนด์ OMODA และ JAECOO เข้ามาเสริมทัพ โดยทั้งหมดตบเท้าเข้าโครงการ EV 3.5 ของรัฐบาล เพื่อรับส่วนลด 100,000 บาท พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้บริโภคจะต้องหวั่นใจว่า การซื้อ EV รุ่นใหม่ไปแล้ว อีกไม่กี่วันบริษัทจะประกาศลดราคาลงอีกหรือไม่ สิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังเป็นกังวลเกี่ยวกับรถพลังงานไฟฟ้า ยังมีอยู่เช่นเดิม
ดาต้าเซ็ต รายงานว่า ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับ EV ในด้านต่าง ๆ เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป ได้แก่
- ปัญหาแบตเตอรี่
- ความเพียงพอของสถานีชาร์จ
- คุณภาพการใช้งาน
- ราคาของประกันรถที่อาจแพงกว่ารถยนต์สันดาป
ปัจจุบันความนิยม EV ในไทยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 จากข้อมูลของรอยเตอร์พบว่าไทยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ที่พบว่ายอดจอง EV ถล่มทลาย โดยเหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อ EV ได้แก่
- ความคุ้มค่าและความประหยัด
- ดีไซน์ของรถที่มีความทันสมัย
- เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือ AI ของตัวรถ
- ลดมลพิษทางอากาศ
ดาต้าเซ็ต ยังเปิดเผยว่า รถ 5 ยี่ห้อที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ BYD CHANGAN TESLA AION และ GWM โดยมีการกล่าวถึง (Mention) และ เอ็นเกจเมนต์ (Engagement) มากที่สุด
ทั้งนี้ บริษัท ดาต้าเซ็ต ใช้เครื่องมือ DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) เก็บข้อมูลบน Social Media ระหว่างวันที่ 15 พ.ย.- 16 ธ.ค. 2566 เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการพูดถึงบนสังคมออนไลน์ว่า สอดคล้องกับแบรนด์รถที่มียอดจองสูงจากงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 หรือไม่