กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2566 โดยในภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ลดลงเล็กน้อย ส่วนยอดขายรถยนต์รวมแม้จะหดตัวแต่ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า EVโตพุ่ง เช่นเดียวกับตลาดส่งออก ที่เพิ่มขึ้น
ยอดผลิตรถยนต์ เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,708,042 คัน ลดลง 0.98 % ขณะที่ยอดผลิตในเดือนพฤศจิกายน 2566 มีทั้งสิ้น 163,337 คัน ลดลง 14.10 %
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดผลิตรถยนต์ลดลงนั้นเป็นผลมาจากฐานการผลิตสูงในปีที่แล้วจากการได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นเพราะการระบาดของโรคโควิด 19 ชะลอตัวลง คนทำงานกลับไปทำงานที่สำนักงานมากขึ้น คอมพิวเตอร์และมือถือขายลดลง
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 707,454 คัน ลดลง 7.71 % ขณะที่ยอดขายในเดือน พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 61,621 คัน ลดลง 9.76 % เนื่องจากยอดขายรถกระบะลดลง 38.8% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเพราะหนี้ครัวเรือนสูง
อย่างไรก็ตามแม้ในภาพรวมยอดขายรถยนต์จะลดลง แต่รถยนต์ไฟฟ้า มีอัตราการเติบโตสูง โดยในเดือนพฤศจิกายน 2566 ไทยขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 8,696 คัน เพิ่มขึ้น 875.98 และเมื่อดูยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,815 คัน เพิ่มขึ้น 722.32 %
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,027,234 คัน เพิ่มขึ้น 15.59 % ส่วนเดือนพฤศจิกายน 2566 ส่งออกได้ 99,609 คัน เพิ่มขึ้น 13.22 % โดยปัจจัยที่ทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังดี จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้