"BOI"กล่อมทุน"EV"ซาอุฯตั้งฐานผลิตในไทยส่งออกอาเซียน

07 พ.ย. 2566 | 09:22 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ย. 2566 | 09:22 น.
1.2 k

"BOI"กล่อมทุน"EV"ซาอุฯตั้งฐานผลิตในไทยส่งออกอาเซียน หลังมีนโยบายส่งเสริมการผลิตอีวีในประเทศ พร้อมตั้งเป้าจะมีแบรนด์รถอีวีที่ผลิตรถอีวีภายในประเทศให้ได้โดยเร็ว ด้านซาอุฯชวนไทยไปเปิดตลาดชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการหารือกับประเทศซาอุดีอาระเบียถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุน ในหลายด้าน รวมทั้งการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียมีนโยบายส่งเสริมการผลิตอีวีในประเทศ โดยตั้งเป้าจะมีแบรนด์รถอีวีที่ผลิตรถอีวีภายในประเทศให้ได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย (PIF) ได้ประกาศการลงทุนใน 2 บริษัทรถอีวี ที่สำคัญ ได้แก่ “Ceer” และ “Lucid” โดย Ceer ขณะนี้ PIF ได้เข้าร่วมทุนกับบริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ไต้หวัน เพื่อพัฒนาและผลิตแบรนด์อีวีประจำประเทศ 
 

รวมทั้งร่วมมือกับบริษัท BMW ในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า และอื่นๆมาปรับใช้กับอีวีแบรนด์นี้ โดยตั้งเป้าว่าในปี พ.ศ. 2568 จะผลิตและส่งมอบรถอีวีให้กับลูกค้าได้

ส่วน Lucid นั้น ล่าสุด PIF ของซาอุดีอาระเบียได้เข้าซื้อหุ้นกว่า 60% ในบริษัท Lucid Motor ของสหรัฐฯ เพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตรถอีวี โดยซาอุดีอาระเบีย เพิ่งประกาศเปิดโรงงานแห่งแรกนอกประเทศ ในเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษ King Abdullah (King Abdullah Econo mic City) เมื่อปลายเดือน ก.ย. ซึ่งการหารือกันระหว่าง 2 ประเทศ ในเรื่องความร่วมมือเรื่องของอุตสาหกรรมยานยนต์และอีวี

"ประเทศไทยได้เชิญชวนให้ซาอุดีอาระเบียขยายการลงทุนรถอีวีของแบรนด์ที่มีการลงทุนมายังประเทศไทย โดยเสนอให้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังอาเซียนเหมือนกับที่มีการลงทุนของหลายค่ายรถอีวีในไทยก่อนหน้านี้ ส่วนซาอุดีอาระเบียก็เชิญชวนให้ผู้ประกอบการไทยไปเปิดตลาดชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในตลาดของซาอุดีอาระเบีย"

สำหรับมาตรการการส่งเสริมอีวีของประเทศไทย ช่วงที่ผ่านมาได้ผลการตอบรับที่ดี ทั้งจากผู้บริโภคและผู้ผลิตจากทั่วโลกโดยปี 2565-2566 ที่ประเทศไทยใช้มาตรการสนับสนุน EV 3.0 มีผู้ผลิตอีวีเข้าร่วมกับมาตรการดังกล่าว 13 แบรนด์ จาก 15 บริษัท ทั้งในประเภทรถยนต์นั่งไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยในปี 2567 จะมีผู้ที่เริ่มผลิตอีวีในประเทศไทย 6 ราย ตามเงื่อนไขที่จะต้องมีการผลิตอีวีในประเทศ เพื่อทดแทนการนำเข้า